งานจัดประชุม สัมนา จัดเบรค – ช่วงนี้ใครที่กำลังจะมีงานแต่งงาน งานเลี้ยง หรือ งานจัดประชุม สัมนา รวมถึงผู้ที่ต้องไปร่วมงานเองก็คงกังวลไปตามๆ กัน เพราะไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาด ทำให้ต่างคนต่างไม่อยากออกไปในที่ที่คนรวมตัวกันเยอะ ๆ อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้จัดงานและเจ้าของสถานที่หลายแห่งก็รับมือกับสถานการณ์ได้ดี ทำให้มีจำนวนผู้ร่วมงานได้ตามคาด และงานผ่านไปอย่างราบรื่น ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่ามาตรการการรับมือที่ดี สามารถทำได้อย่างไรบ้าง
1. จัดเตรียมแอลกอฮอล์เจลและสบู่ล้างมือให้พร้อมและเพียงพอ
อันดับแรกควรกำชับให้พนักงานเติมสบู่ล้างมือในห้องน้ำเสมอ และสิ่งที่จะทำให้คนอุ่นใจได้มากที่สุดในช่วงเวลานี้ ต้องยกให้แอลกอฮอล์เจล ซึ่งผู้จัดงานควรจัดเตรียมวางไว้ตามจุดสำคัญที่คนน่าจะต้องการใช้ เช่น ทางเข้างาน ที่จำหน่ายบัตรเข้างาน ห้องน้ำ โต๊ะประชาสัมพันธ์ และจุดจำหน่ายหรือแจกจ่ายอาหาร หรืออาจจะเพิ่มกิมมิคให้งานด้วยการแจกเจลล้างมือขนาดพกพาให้แขกทุกคน ก็น่าจะดึงดูดให้คนสนใจมางานได้มากทีเดียว
2. ทำความสะอาดจุดเสี่ยง จุดปนเปื้อนง่าย อย่างสม่ำเสมอ
ตามลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได ที่เท้าแขนเก้าอี้ มือจับก๊อกน้ำ หรือจุดอื่นๆ ที่มือคนสัมผัสบ่อยๆ ไปจนถึงจุดที่อาจมีการปนเปื้อนได้ง่าย เช่น บริเวณห้องน้ำ จุดจำหน่ายหรือแจกจ่ายอาหาร โต๊ะรับประทานอาหาร นับเป็นจุดเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ ผู้จัดงานจึงควรวางแผนให้มีการทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่นั้นๆ ร่วมกับแอลกอฮอล์ 70%
3. เคร่งครัดกับความสะอาดในการจัดเตรียมอาหารเป็นพิเศษ
การให้ผู้ประกอบอาหารสวมถุงมือคงเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันอยู่แล้วเพื่อความสะอาดถูกสุขลักษณะ แต่หากอยากจะเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ร่วมงานอีกขั้น การใช้บริการซุ้มอาหารที่ปรุงกันสดใหม่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว หรือหากจะใช้อาหารปรุงสำเร็จ ก็ควรมีภาชนะปิดมิดชิดเพื่อลดการสัมผัสกับอากาศ เรื่องของอาหารจัดเลี้ยงในงาน
4. เลือกพื้นที่จัดงานให้เหมาะสมกับจำนวนคน
แพทย์และผู้เชี่ยวชาญต่างแนะนำว่าในช่วงเวลานี้เราควรอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่แออัด ดังนั้นการจัดงานใดๆ ก็ตาม ผู้จัดควรเลือกใช้สถานที่ที่มีขนาดเหมาะสมกับจำนวนคน และวางแผนให้กิจกรรมในงานสามารถกระจายคนไม่ให้กระจุกอยู่ในจุดเดียวกัน เช่น มีที่ทำกิจกรรมหลายจุด และกระจายมุมจำหน่ายหรือแจกจ่ายอาหาร เป็นต้น
5. คัดกรองคนก่อนเข้างาน
ตั้งจุดคัดกรองหน้างาน เพื่อสอบถามว่าใครมีอาการป่วยหรือไม่ โดยอาจแจกหน้ากากอนามัย หรืออำนวยความสะดวกในการส่งกลับบ้านหรือไปพบแพทย์ ตามความเหมาะสมของอาการที่พบ ที่สำคัญคือเจ้าที่หน้าหรือทีมผู้ดูแลงานเองก็ควรมีการคัดกรองเช่นกัน หากพบว่าใครมีอาการป่วยควรให้หยุดงานหรือไปพบแพทย์เพื่อป้องกันไว้จะดีที่สุด
6 รูปแบบการจัดงานสัมมนา
การสัมมนา คือ การประชุมกลุ่ม บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และความสนใจ ประสบการณ์ในงาน วิชาชีพเดียวกัน หรือ วัตถุประสงค์เดียวกัน เพื่อการศึกษาค้นคว้าเรื่อง ใดเรื่องหนึ่งร่วมกัน หรือ แลกเปลี่ยนความ คิดเห็นซึ่งกันและกัน
การจัดสัมมนาให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้จัดงานต้องสามารถกำหนดวัตถุประสงค์ในการจัดสัมมนาให้ได้ว่าคืออะไร การเลือกรูปแบบการสัมมนาให้เหมาะสมจึงถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผู้จัดงานสามารถตั้งเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น
รูปแบบการจัดงานสัมมนานั้นมี 6 รูปแบบ ดังนี้
1. การอภิปรายแบบคณะ (Panel Discussion) เป็นการสัมมนาเชิงอภิปรายเนื้อหา โดยจะมีคณะผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ความรู้ในหัวข้อนั้น ๆ ประมาณ 3-8 คน โดยจะเป็นการอภิปรายในเชิงลึกให้ความคิดเห็น ข้อมูลเท็จจริง ความรู้ความเข้าใจ มุมมองและความรู้ที่แตกต่างลึกซึ้งแตกต่างกันไป ซึ่งจะทำให้ผู้ร่วมสัมมนาได้รับความรู้ ข้อคิดเห็นที่แตกต่าง ได้แนวความคิดหลากหลาย และมีหลายแง่มุมในเรื่องเดียวกัน
2. การสัมมนาในแบบซิมโพเซี่ยม (Symposium) เป็นการสัมมนาการประชุมเชิงวิชาการ บรรยากาศอภิปรายจะแบบเป็นทางการ มีวิทยากร 2-6 คน ซึ่งจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อนั้น ๆ ซึ่งผู้อภิปรายจะเตรียมความรู้ในส่วนของตนที่รับผิดชอบตอนใดตอนหนึ่งที่ตนได้รับมอบหมาย ซึ่งการบรรยายในการอภิปรายแบบนี้วิทยากรจะไม่ก้าวก่ายหรือซ้ำซ้อนกับหัวข้อของวิทยากรท่านอื่น โดยวิทยากรแต่ละท่านต้องเสนอแนวคิดที่ตรงประเด็นเป้าหมายให้มากที่สุด โดยแต่ละท่านจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ซึ่งจะทำให้ผู้ร่วมสัมมนาได้รับความรู้แบบแน่น ๆในเชิงลึกของหัวข้อนั้น ๆ
3. การสัมมนารูปแบบอภิปรายระดมความคิด (Brain Storming) เป็นรูปแบบการสัมมนาที่ต้องการการอภิปราย โดยผู้เข้าร่วมสัมนาสามารถออกความคิดเห็นร่วมกันได้ โดยจะจัดเป็นกิจกรรมกลุ่มที่มีผู้ร่วมอภิปราย 5-15 คน เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และเกิดบทสรุปตามหัวข้อและเนื้อหาที่กำหนด โดยการดำเนินการอภิปรายจะมีผู้นำเป็นประธานกลุ่ม มีเลขานุการกลุ่มจดบันทึกการประชุมอยู่ด้วย ซึ่งงานประเภทนี้จะทำให้ผู้ร่วมงานได้มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระและเต็มที่ แถมยังสร้างการสื่อสารและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ร่วมงานอีกด้วย
4. การสัมมนาอภิปรายโดยการสวมบทบาทสมมุติ (Role Playing) เป็นการกำหนดเหตุการณ์ โดยผู้จัดการสัมมนาให้ผู้เข้าสัมมนาได้สวมบทบาทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นความรู้สึกได้ตามบทบาทสมมุติที่ตนเองเล่นอยู่นั้น เช่น วิธีการติดต่อธุรกิจทางโทรศัพท์ วิธีการเข้าร่วมสัมภาษณ์ทำงาน เป็นต้น ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้ใส่หัวใจและเรียนรู้เข้าใจในความรู้สึกความคิดเห็นของบทบาทที่สวมอยู่ เกิดเป็นประสบการณ์ใหม่และความคิดความเข้าใจใหม่ ๆ อย่างลึกซึ้ง
5. การอภิปรายแบบถาม-ตอบ (Dialogue) เป็นการประชุมสัมมนาแบบกลุ่มประมาณ 8-15 คน จัดสถานที่สัมมนาให้เป็นโต๊ะกลมที่ทุกคนหันหน้าเข้าหากัน จะมีประธานการสัมมนาเป็นผู้เสนอหัวข้อ เนื้อหาและปัญหาให้รับฟังร่วมกัน จากนั้นเริ่มอภิปรายโดยคนที่อยู่ถัดจากประธานอภิปรายตามความคิดความต้องการของตนเองเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าว แล้วเรียงกันไปทางขวามือพูดทีละคนจนครบทุกคน ซึ่งการจัดงานแบบนี้จะทำให้ผู้ร่วมงานแสดงความคิดเห็น แนวคิด การวิเคราะห์ได้อย่างเต็มที่
6. การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เป็นวิธีการประชุมที่ต้องการให้สมาชิกได้รับความรู้ในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งการจัดสัมมนาประเภทนี้จะเน้นให้ผู้ร่วมงานนำเอาความรู้ไปใช้มากกว่าการฟัง เกิดประโยชน์และใช้ได้จริงในสายอาชีพ เช่น การสัมมนาเรื่องวิธีการใช้ระบบลงทะเบียนหรือเรียนรู้การสร้าง QR Code นอกจากจะฟังบรรยายแล้วจะผู้ร่วมงานต้องทำกิจกรรม Workshop เพื่อให้สามารถสร้างแบบฟอร์มการลงทะเบียนและสร้าง QR Code ได้ด้วยตนเอง เป็นต้น
เมนูอาหาร งานจัดประชุม สัมนา จัดเบรค
-ขนมจีบหมู ขนมจีบกุ้ง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซอสจิ๊กโฉ่ว มีทั้งชุดเล็ก และชุดใหญ่
-เกี๊ยวซ่าทอด มี 2 ขนาด เล็ก – ใหญ่ 6 ชิ้น และ 12 ชิ้น เนื้อหมูแน่นๆ เต็มคำ ทอดกรอบเหลือง อร่อย ไม่อมน้ำมัน ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ด
-ซาลาเปาหมูแดง รสชาติกลมกล่อม ไส้ไม่แฉะ หอมกลิ่นเครื่องเทศ
-ซาลาเปาหมูสับ แป้งนุ่ม ไส้รสชาติเข้มข้น หมูเน้นๆ เต็มคำ
-ซาลาเปาไส้ไข่เค็มลาวา ไส้ทะลัก เยิ้มๆ หอมกลิ่นไข่เค็ม รสชาติกลมกล่อม
-พายข้าวโพด แป้งพายกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นข้าวโพด
-พายเผือก แป้งพายกรอบนอกนุ่มใน รสชาติไส้เผือกไม่หวานมาก กินเพลินๆ
-ครัวซองเนยสด แป้งกรอบนอกนุ่มใน หอมกรุ่นเนยสด
-ครัวซองไส้กรอก แป้งกรอบนอกนุ่มใน ไส้กรอกหมู ไก่ เลือกได้เลย
เครื่องดื่มต่าง ๆ
-น้ำพั้นซ์ (320 ml) สรรพคุณ: ช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการสะสมตัวของไขมันคลอเรสเตอรอล และป้องกันการเกิดนิ่วในไต ป้องกันหวัด ทำให้ให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
-น้ำชามะนาว (320 ml) สรรพคุณ: รักษาความชุ่มชื้นให้ร่างกาย เพิ่มสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ผ่อนคลายเส้นประสาท ต่อต้านมะเร็ง
-น้ำส้มวาเลนเซีย-ตราชบา (180 ml) สรรพคุณ: ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และต่อต้านอนุมูลอิสระ ผิวสวยแล้วยังสุขภาพดีจนสังเกตได้
-น้ำแอปเปิ้ลผสมน้ำองุ่น-ตราชบา (180 ml) สรรพคุณ: พร้อมคุณประโยชน์จากวิตามินเอ ซี ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัด
กลับสู่หน้าหลัก – jum-jim