สถาบันเตรียมสอบ ติว KU-EPT Online

สถาบันเตรียมสอบ ติว KU-EPT Online

 

สำหรับคนที่กำลังเรียนอยู่ มหาลัยเกษตรศาสตร์ หรือสนใจศึกษาต่อใน ม.เกษตร จะต้องสอบ KU-ETP ซึ่งเป็นข้อสอบทดสอบความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษของเกษตร วันนี้เลยจะมาพูดถึงข้อสอบ KU-EPT คืออะไร ข้อสอบออกอะไรบ้าง วิธีสมัครสอบต้องอย่างไร สรุปคำศัพท์ที่ออกบ่อย และแนะนำคอร์ส ติว KU-EPT Online

 

KU-EPT คือ

Kasetsart University English Proficiency Test หรือ KU-EPT คือ ข้อสอบที่วัดความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในระดับปริญญาตรีภาคปกติทุกชั้นปีที่ผ่านวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน I (01355111) และภาษาอังกฤษพื้นฐาน II (01355112) แต่ยังไม่ผ่านวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน III (01355113)

นอกจากนี้ยังใช้สำหรับนิสิตในระดับบัณฑิตศึกษาทั้งปริญญาโทและเอกที่ต้องผ่านการทดสอบทางภาษาอังกฤษตามข้อกำหนดของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งถึงแม้ว่าจะสามารถลงทะเบียนเรียนและสอบให้ผ่านในรายวิชาภาษาอังกฤษ 01355501 ทดแทนได้

 

KU EPT ออกอะไรบ้าง

ข้อสอบประกอบด้วย 2 ส่วนคือ Structure Completion , Reading Comprehension KU-EPT ข้อสอบ จะมีทั้งหมด 80 ข้อ เป็นแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) ทั้งหมด ไม่มีเขียน

  1. Structure Completion จำนวน 40 ข้อ แบ่งเป็น พาร์ท Sentence Completion 25 ข้อ และพาร์ท Cloze test 15 ข้อ ซึ่งใช้ทั้งทักษะด้านไวยกรณ์ (Grammar) ในขณะที่ทักษะด้านคำศัพท์ก็ต้องมีด้วยเช่นกัน
  2. Reading Comprehension จำนวน 40 ข้อ ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับพาร์ทนี้คุณต้องเตรียมทักษะการอ่าน

ดาวน์โหลดตัวอย่างข้อสอบ KU-EPT pdf

 

วิธีสมัครสอบ KU-EPT

  1. ลงทะเบียน สมัครสอบ KU EPT ที่ ศูนย์ทดสอบทางภาษา คณะมนุษยศาสตร์ https://ku-ept.human.ku.ac.th/ ข้อมูลทั่วไป
  2. เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับอีเมลที่มีลิงค์ให้เราคลิกยืนยันข้อมูลการลงทะเบียน
  3. ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสมัครสอบ ให้ไปที่หน้าแรกของเว็บไซต์ จะมีตารางที่แสดงรอบการรับสมัครต่างๆ สามารถคลิกลิงค์ดังกล่าวได้เลยค่ะ
  4. กรอกอีเมล และคลิกดำเนินการ ระบบจะแสดงใบชำระเงินค่าสมัครสอบ คลิกรูป Printer เพื่อพิมพ์ใบชำระเงิน
  5. นำใบชำระเงินที่ได้มาไปชำระค่าลงทะเบียนสอบได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ภายใน 3 วัน นับจากวันที่ทำการสมัคร
  6. หลังจากนั้นทางศูนย์ฯ จะมีอีเมลแจ้งการรับชำระเงิน ห้องสอบ/หมายเลขสอบให้ทราบ

ตารางสอบ KU-EPT 2023

ศูนย์สอบ วันที่เปิดรับสมัคร วันที่สอบ เวลาสอบ
บางเขน 22 ม.ค. – 4 ก.พ. 66 อา.19 ก.พ. 66 9:00 – 12:00 น.
บางเขน 22 ม.ค. – 4 ก.พ. 66 อา.19 ก.พ. 66 13:00 – 16:00 น.
กำแพงแสน 29 ม.ค. – 17 ก.พ. 66 ส.25 ก.พ. 66 13:00 – 16:00
บางเขน 19 ก.พ. – 4 มี.ค. 66 อา.19 มี.ค. 66 9:00 – 12:00
บางเขน 19 ก.พ. – 4 มี.ค. 66 อา.19 มี.ค. 66 13:00 – 16:00
กำแพงแสน 26 ก.พ. – 17 มี.ค. 66 ส.25 มี.ค. 66 13:00 – 16:00 น.
บางเขน 26 มี.ค. – 15 เม.ย. 66 อา.23 เม.ย. 66 9:00 – 12:00 น.
บางเขน 26 มี.ค. – 15 เม.ย. 66 อา.23 เม.ย. 66 13:00 – 16:00 น.
กำแพงแสน 2 – 21 เม.ย. 66 ส.29 เม.ย. 66 13:00 – 16:00 น.
บางเขน 23 เม.ย. – 6 พ.ค. 66 อา.21 พ.ค. 66 9:00 – 12:00 น.
บางเขน 23 เม.ย. – 6 พ.ค. 66 อา.21 พ.ค. 66 13:00 – 16:00 น.
กำแพงแสน 30 เม.ย. – 19 พ.ค. 66 ส.27 พ.ค. 66 13:00 – 16:00 น.
บางเขน 21 พ.ค. – 3 มิ.ย. 66 อา.18 มิ.ย. 66 9:00 – 12:00 น.
บางเขน 21 พ.ค. – 3 มิ.ย. 66 อา.18 มิ.ย. 66 13:00 – 16:00 น.
กำแพงแสน 28 พ.ค. – 16 มิ.ย. 66 ส.24 มิ.ย. 66 13:00 – 16:00 น.
บางเขน 18 มิ.ย. – 1 ก.ค. 66 อา.16 ก.ค. 66 9:00 – 12:00 น.
บางเขน 18 มิ.ย. – 1 ก.ค. 66 อา.16 ก.ค. 66 13:00 – 16:00 น.

คอร์สเรียน KU-EPT รับรองผล อยู่ที่ไหน ก็เรียนได้

ติว KU-EPT Online รับรองผล สอนโดย ครูพี่เกด จุฬาติวเตอร์ https://online.chulatutor.com/p/ku-ept-online

ติว KU-EPT ตัวต่อตัว

ติว KU EPT แบบตัวต่อตัวของสถาบันจุฬาติวเตอร์ ที่จะเน้นการเรียนการสอนแบบยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ สอนกันแบบสดๆในห้องเรียนที่ทางสถาบันจัดเตรียมไว้ให้อย่างเหมาะสม เราสามารถเลือกวัน เวลาเรียนได้ด้วยนะคะว่าสะดวกเรียนในช่วงใดบ้าง ตารางเรียนที่เลือกได้แบบนี้จะยิ่งทำให้เราเรียนได้เหมาะกับเวลาที่เรามี คอร์สเรียนแบบตัวต่อตัวสอนโดยติวเตอร์ที่ทางสถาบันคัดเลือกมาเป็นอย่างดี มีความสามารถและเชี่ยวชาญทางด้านภาษาอังกฤษโดยตรง

ซึ่งจะทำให้เราเห็นเลยว่าการเตรียมตัวด้วยคอร์สเรียนแบบนี้จะทำให้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นกว่าการอ่านหนังสือเองอย่างแน่นอนค่ะ อีกทั้งติวเตอร์เองยังสามารถมองเห็นจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะส่งผลเสียต่อการทำข้อสอบของเราได้อีกด้วยนะคะ เช่น ใช้วิธีการทำที่ีช้าไป ไม่รอบคอบ หรือเข้าใจผิดไปในบางประเด็น เป็นต้น ซึ่งจุดนี้เองค่ะที่เราไม่สามารถหาได้จากการเตรียมตัวเอง ไม่ว่าจะรีบสอบแค่ไหน เวลาเตรียมตัวเหลือไม่มาก คอร์สเรียนตัวต่อตัวของเราก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างไร้กังวล เพราะที่นี่คือจุฬาติวเตอร์ “easy to be expert”

 

ติวตัวต่อตัว
จำนวนนักเรียน จำนวนชั่วโมง
10 ชม. 20 ชม. recommemded
30 ชม.
40 ชม.
1 คน 12,000 ฿ 22,000 ฿ 33,000 ฿ 44,000 ฿
2 คน
(ประหยัดถึง 25%)
18,000 ฿ 33,000 ฿ 49,500 ฿ 66,000 ฿
3 คน
(ประหยัดถึง 40%)
21,600 ฿ 39,600 ฿ 59,400 ฿ 79,200 ฿
แถมฟรี 2 ชม. แถมฟรี 4 ชม.
หมายเหตุ : คอร์สส่วนตัว ห้องเรียนส่วนตัว เรียนที่สถาบัน กับ ติวเตอร์มากประสบการณ์ สามารถเลือกวันและเวลา เรียนเองได้

 

ตัวอย่าง ข้อสอบ KU-EPT

ข้อสอบ KU-EPT มีประมาณ 10 หน้า โดยมี 2 ส่วนคือ Part 1 Structure 40 ข้อ ประกอบด้วย Sentence Completion 25 ข้อ กับ Cloze test 15 ข้อ , Part 2 Reading Comprehension 40 ข้อ

ตัวอย่าง ข้อสอบ KU-EPT Structure
ตัวอย่าง ข้อสอบ KU-EPT Structure
ตัวอย่าง ข้อสอบ KU-EPT Reading Comprehension
ตัวอย่าง ข้อสอบ KU-EPT Reading Comprehension

 

www.youtube.com/watch?v=SAL4yRncZEc

 

www.youtube.com/watch?v=h93rwaa1JIM

 

www.youtube.com/watch?v=U2ru4G_R0yc

 

www.youtube.com/watch?v=Tfjvv6lACJA

สอบ TOEIC รีวิวจากประสบการณ์สอบ

สอบ TOEIC รีวิวจากประสบการณ์สอบ

สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องมาอยากเมาท์มอยกับการ สอบ TOEIC ที่เพิ่งไปสอบมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์  ที่ผ่านมา และก็กลับไปคิดว่าก่อนที่เราจะเดินทางไปสอบครั้งแรก เรามักจะวิตกกังวลสารพัดเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ข้อสอบ การไปสอบ การเตรียมตัว สารพัดความกังวล บางคนอ่านหนังสือเตรียมตัวอย่างดี ก็ยังไม่วายจะกังวลเรื่องการเดินทางไปสอบ (โดยเฉพาะคน ตจว.) มันก็ไม่ผิดนะที่เราจะคิดแบบนั้น เพราะค่าสอบ TOEIC ก็ไม่ใช่ถูกๆ ณ ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 1800 บาทแล้วนะคะ เกิดเดินทางหลงหรือไปไม่ทัน เท่ากับเสียประวัติ เสียเงินค่าปรับ เสียเวลา และสุดท้ายก็มานั่งเสียใจกัน วันนี้เลยอยากจะแนะนำผู้ที่เพิ่งสอบครั้งแรกแบบชนิดมองเห็นภาพกันเลยจ้า

     

การสมัครสอบ TOEIC

การสมัครสอบ TOEIC สามารถทำได้โดยการโทรศัพท์ไปที่ศูนย์สอบได้โดยตรง ตามเบอร์ด้านล่างเลยค่า (ยกเว้นกรณีที่ สมัครผ่านองค์กรหรือสถาบันการศึกษาต้องสมัครผ่านองค์กรเท่านั้น)

 

ศูนย์สอบ TOEIC กรุงเทพ 
Center of Professional Assessment (Thailand)
ตึก BB Building ชั้น 19 ห้อง 1907 ถนนอโศกฯ  สุขุมวิท 21 กรุงเทพ 10110 โทรศัพท์ : 02-2607061,02-2593990 Fax: 02-6643122
E-mail:  cpa@cpathailand.co.th

 

ศูนย์สอบ TOEIC เชียงใหม่
Center of Professional Assessment (Thailand)
อาคารนวรัตน์ ชั้น 3  4/6 ถนนนวรัตน์ ซอย 3 อำเภอเมือง เชียงใหม่ 50000 โทรศัพท์ : (053)241-273 ,(053)241-274 Fax: (053) 248-208
E-mail: cpa_Northern@cpathailand.co.th

 

วัน เวลา และรอบสอบ TOEIC

เปิดสอบทุกวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 8.00 – 16.00 (ศูนย์สอบ TOEIC ปิดทำการ ทุกวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

เวลาสอบมี 2 ช่วงเวลา เวลา 9.00 – 11.30 และ 13.00 – 15.30 น. (ยกเว้นวันเสาร์หากเต็มจะมีเปิดรอบพิเศษตอนเย็นอีกรอบ คือ 16.00 -18.30 น.) สามารถตรวจสอบได้โดยวิธีโทรสอบถามเท่านั้นค่ะ

 

การเตรียมตัวก่อนถึงวันสอบ TOEIC ควรเตรียมอะไรบ้าง

การเตรียมตัวก่อนวันสอบ TOEIC 1 วัน เพื่อความไม่ประมาทคุณควรจะโทรเช็คคอนเฟิมการสมัคร สอบ TOEIC ก่อนว่ามีชื่อเราในวันนั้นหรือไม่ ง่ายนิดเดียวค่ะเพียงแค่โทรไปเช็คที่ศูนย์สอบ แล้วแจ้งเลขบัตรประชาชนได้เลย เขาจะแจ้งชื่อ-สกุล และรอบสอบที่เราสมัครไว้แต่แรก ถ้ามีชื่อรอบถูกต้องก็สบายใจได้เลย ส่วนเรื่องการชำระเงินชำระในวันที่ไปสอบได้เลยค่ะ เป็นเงินสดเท่านั้นนะค่ะ ! ขอย้ำนะค่ะว่าเงินสดเท่านั้น บางคนไม่เตรียมเงินสดกะว่าจะไปรูดบัตรเครดิตต้องเสียเวลาลงมากดเงินนะค้า

 

เอกสารที่ต้องใช้ในการเตรียมไปวันสอบ TOEIC (ห้ามลืมนะคะ)

  1. บัตรประชาชนตัวจริง หรือพาสปอร์ต หรือใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ (กรณีบัตรประชาชนเลือนรางรูปไม่ชัด หรือหมดอายุ บอกได้เลยอดสอบนะคะ ศูนย์สอบค่อนข้างเคร่งมากอย่าคิดทำเนียนๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเอาพาสปอร์ตไปด้วย
  2. หากสมัครผ่านองค์กร หรือสถาบันการศึกษา ต้องมีบัตรพนักงานและองค์กรด้วย
  3. เงินสด 1800 บาท หากต้องการส่งผลคะแนนทาง EMS มีค่าส่ง 50 บาท

อุปกรณ์ที่ไม่ต้องเตรียมไป พวกดินสอ ปากกา ยางลบ เขามีให้หมดค่ะไม่ต้องห่วงค้า และที่สำคัญสุดที่อยากจะเตือน คือ ทรัพย์สินมีค่า ของทุกอย่างไม่ให้นำเข้าห้องสอบ TOEIC ค่ะ จะให้นำเขาแค่กระเป๋าเงินใบเล็กๆ เท่านั้น อย่าคิดว่าจะแอบเอาโทรศัพท์หรือกุญแจ ใส่ไว้ในชุดชั้นในเลยค่ะ เพราะมีคนเคยทำไม่รอดค่ะ เขาตรวจโดยใช้เครื่องจับวัตถุโลหะ ยืนกางแขนก่อนเข้าห้องแบบ 360 องศาเหมือนด่านตม.กันเลยทีเดียว ฉะนั้นควรเอาของไปแต่น้อยหากใครจำเป็นต้องมีกระเป๋าก็แนะนำให้เป็นกระเป๋าใบใหญ่ มีที่ล็อกกุญแจจะดีกว่า บางคนไม่เอากระเป๋าไปแต่มีมือถือ มันเสี่ยงกว่าอีก เพราะเขาจะให้เราเอามือถือวางไว้ในตระกร้า ลองคิดดูเวลาปล่อยออกจากห้องพร้อมๆกัน หยิบกันแบบชุลมุนจะรู้มั้ยว่าเป็นของใคร และเขาไม่มีบริการรับฝากของและไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

 

การเดินทางไปสอบ TOEIC

การเดินทางให้ไปก่อนล่วงหน้า เพราะต้องลงทะเบียนก่อน 1 ชม. โดยเฉพาะช่วงเช้าคุณสมัครรอบ 9.00 การเดินทางมีหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง BTS หรือ MRT แต่ถ้าจะให้ดีสุด BTS หรือ MRT เริ่ดสุดค่ะเพราะคุณจะไม่เสี่ยงการรถติดและไปสอบไม่ทัน ให้คุณลงสถานี BTS อโศก ลงทางออกที่ 3-4 ที่เป็นทางเชื่อม MRT เดินลงมาเรื่อยๆ คุณสามารถเดินเท้าไปได้ จนถึงตึก BB แต่หากอากาศร้อนหรือขี้เกียจเดินเก็บแรงไว้สู้กับข้อสอบก็ต่อวินมอเตอร์ไซค์ 15฿ ได้เรยจ้า ไม่เกิน 3 นาที

เมื่อถึงตึกสอบ TOEIC ให้ขึ้นลิฟท์ชั้น 19 ได้เลย ตึกนี้ลิฟท์เยอะมากกก แต่ไม่รอนานค่ะ เขาจะระบุอัตโนมัติว่า ลิฟท์ตัวนี้จะไปชั้นไหน ไฮโซสุดๆ เมื่อถึงชั้น 19 ให้เลี้ยวซ้ายนะค่ะ จะมีป้ายบอกตรงกลาง แนะนำนะคะว่าให้ไปลงทะเบียนก่อนเพราะคนจะเยอะมาก ขนาดไปก่อนตั้งเกือบ 2 ชม. ถึงนั้น 11.00 แถวลงทะเบียนยังยาวจะรอบตึกเลย เมื่อเข้าไปด้านใน จะมีเจ้าหน้าที่เยอะมากคอยบอกและแนะนำทุกขั้นตอน แบบเป็น ขั้นตอนเลยไม่ต้องห่วงว่าจะเข้าผิดช่อง เพราะเขาจะไม่ให้คุณทำข้ามขั้นตอนเด็ดขาด 555

รีวิวประสบการณ์ส่วนตัวการลงทะเบียนรายงานตัวเข้าสอบ TOEIC

ขั้นตอนแรก จะขอดูบัตรประชาชนพร้อมเช็ครอบ และให้คุณถ่ายรูปโดยมองกล้องตรงคอมพิวเตอร์ (สำหรับท่านที่สมัครผ่านทางองค์กรมาจะไม่ต้องถ่ายรูปนะคะ ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย) รูปทุกคนถ่ายมาเหมือนกันหมด แม้ว่าจะหน้าเรียวปานญาญ่า แต่รูปออกมา หน้าดำ อืดบวมกันทุกคน 555+ เสร็จแล้วเขาก็จะให้เราไปเข้าแถวรอตามขั้นตอนต่อไป จนได้ใบลงทะเบียนครึ่ง A 4 เพื่อเป็นหลักฐานในการเข้าสอบ TOEIC และนำใบนั้นฝนรหัสสอบ เมื่อเสร็จ เวลาเหลืออีกตั้งชั่วโมง ถึงจะสอบไปหาข้าวเที่ยงกินบำรุงสมองกันดีกว่า ในบริเวณตึกไม่ค่อยมีร้านอาหารน่าสนใจสักเท่าไหร่ ก็จะมีแค่ เชสเตอร์กริลเล็กๆ แฟเมลี่มาร์ทและร้านกาแฟนั่งชิวๆ ส่วนใครที่ไม่หิวอยากเดินช้อปรอก็มีร้าน EVE&BOY ด้านล่างตึกใหญ่พอดู คนไม่เยอะด้วย เหมาะกับสาวๆเลยค่ะ เพราะของร้านนี้เขาถูกจริง มีตั้งแต่เครื่องสำอางระดับรากหญ้า ไปยัน แบรนด์เนม กันเลยทีเดียว โดยเฉพาะน้ำหอมต่างประเทศ ถ้าหากต้องการทานอาหารแบบจัดหนัก ให้ข้ามไปฝั่งตรงกันข้ามจะมีห้าง และร้านอาหารเยอะกว่า มี S&P ด้วย คิดว่าง่ายสุดแระ เพราะใกล้ไม่ต้องเดินไกลมากอาหารก็หลากหลาย มีทั้งคาว หวาน กาแฟ เตรียมพร้อมสำหรับเติมพลังก่อนสอบ TOEIC Test พอใกล้ถึงเวลาเข้าห้องสอบสัก 15 นาทีก็เดินกลับมาขึ้นตึกสอบ ตกใจ ! คุณพระ…. แถวยาวมากเขาเริ่มทยอยให้คนเข้าห้องแล้ว และก็ถึงบางอ้อว่าที่เข้าแถวยาวก็เพราะตรวจกันแบบละเอียดนี้เอง

ใครที่เอากระเป๋าสะพาย โทรศัพท์ พวงกุญแจ มือถือ ให้เข้าไปเก็บกระเป๋าที่ห้องลงทะเบียนครั้งแรกก่อน ไม่งั้นถ้ามาเข้าแถวแล้วเขาให้ไปเก็บก็จะต้องต่อแถวใหม่ T_T อันนี้โดนมากับตัวเอง (วันนั้นที่ถือเข้าไปมีเพียงกระเป๋าเงินเล็กๆ +ใบที่ลงทะเบียน เขาจะให้นั่งประจำที่ตามหมายเลขที่อยู่ในใบ ห้องจะหนาวมากใครไปแนะนำให้ใส่เสื้อแขนยาวดีกว่าไม่งั้น โดนแช่แข็งแน่ ที่นั่งจะเป็นลักษณะ นั่งคู่ 2 ที่ติดกันแต่ก็มีที่กั้น รับรองมองกันไม่เห็นแน่นอนค่ะ เขาจะให้เราวางกระเป๋า บัตรประชาชน ไว้หัวมุมโต๊ะ

บรรยากาศในห้องสอบ TOEIC

เมื่อถึงเวลาสอบ TOEIC เขาจะแจกกระดาษคำตอบก่อน และให้ฝนดินสอ และเขียนชื่อด้วยปากกาก่อนซึ่งมันเยอะมาก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เอาจริงๆ เวลาในการลงมือทำข้อสอบเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

 

ข้อสอบ 200 ข้อ เฉลี่ยข้อละไม่ถึง 1 นาที ช่วงแรก 100 ข้อ จะเป็นพาร์ท Listening ส่วนที่ 2 เป็นพาร์ท Reading 100 ข้อ

 

ระหว่างที่ทำการสอบ TOEIC จะมีเจ้าหน้าที่เดินไปมาอยู่ประมาณ 4 คน ไม่มีทางที่จะได้หันซ้าย ขวาแน่นอน 555+ เมื่อเวลาสอบ TOEIC ใกล้หมดเจ้าหน้าที่จะแจ้งเป็นระยะว่าเหลือเวลาสอบอีกกี่นาที และหากท่านใดสอบเสร็จแล้วก็ยังไม่ให้ออกนอกห้องสอบเด็ดขาด จะต้องสอบเสร็จทั้งหมดและปล่อยพร้อมกัน พอออกจากห้องสอบได้ทุกคนจะห่วงอยู่เรื่องเดียวคือ กระเป๋าจะวิ่งกันไปแบบมนุษย์ป้ากันเลยทีเดียว สอบเสร็จแล้วยังไม่จบนะคะ สำหรับ ท่านใดที่มีความประสงค์ไม่มารับผลเอง ต้องการให้ส่งผลทาง ems จะต้องไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ เขาจะให้ซองจดหมายให้เราเขียนที่อยู่ที่จะส่งเอง พร้อมชำระค่าธรรมเนียม 50฿ (รับผลเองวันถัดไปภายใน 10 โมงเช้า หากเป็น EMS 3 วันโดยประมาณ) เป็นอันเสร็จสิ้นการสอบ

ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ไว้ก่อนสอบ TOEIC

การยกเลิกการสอบ ต้องโทรยกเลิกภายใน 24 ชม. หากไม่ยกเลิกคุณจะเสียประวัติ ในครั้งต่อไปหากไปสอบจะมีค่าปรับ 500

การสมัครสอบ TOEIC ครั้งต่อไปต้องรอ 5 วันปฏิทิน

ผลคะแนนสอบจะแสดงรูปถ่ายบน Score Report เฉพาะผู้สอบในนาม Personal (ส่วนตัว)

ผลคะแนนสอบในนามองค์กร สถาบันการศึกษา และสถาบันต่างๆ จะไม่แสดงรูปถ่ายบน Score Report

ผู้เข้าสอบท่านใดที่มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมทางการแพทย์ หรือมีอุปกรณ์ฝังไว้ในร่างกายในระหว่างสอบ ให้แจ้งศูนย์สอบก่อนวันสอบอย่างน้อย 2-3 วัน พร้อมมีใบรับรองแพทย์ไปยื่นในวันสอบ

 

บทความข้างต้นที่เล่ามา คงจะช่วยคลายความกังวลสำหรับการเตรียมตัวไปสอบ TOEIC Test ของท่านได้บ้างนะคะ ในการไปสอบความหวังของทุกคนคือ การสอบผ่านตามที่ตัวเองคาดหวังไว้ แต่ผลมันจะออกมาเช่นไร ก็ขอให้ทุกคนอย่ายอมแพ้นะค่ะ เพราะการสอบไม่ได้ขึ้นอยู่การสอบเพียงแค่ ครั้งเดียว ความพยายามต่างหาก ที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ อ่านหนังสือ ติวเข้ม เตรียมพร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ เชื่อว่าไม่ยากเกินความพยายาม ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบ TOEIC นะค่ะ ^^

 

แนะนำคอร์สเรียนสด TOEIC ออนไลน์

(เรียนผ่าน Zoom เรียนวันไหนและเวลาไหนก็ได้ สามารถถามผู้สอนได้ เพราะเรียนแบบสดๆ)

 

เมื่อเห็นความสำคัญของการสอบ TOEIC ภาคกลางแล้ว อย่าลืมมองหาคอร์สเรียน TOEIC เอาไว้ด้วยเพื่อความมั่นใจก่อนสอบ CHULATUTOR ได้มีการเปิดคอร์ส TOEIC ออนไลน์ เรียนได้ที่บ้านแบบสด ๆ กับผู้สอนที่มีความรู้ ความสามารถ พร้อมสอบถามข้อมูล ข้อสงสัยต่าง ๆ ได้ทันที เพื่อให้เข้าใจและนำไปสอบได้ดียิ่งกว่าเดิม

  

แนะนำคอร์สเรียน TOEIC Online

( คอร์สสุดคุ้ม – เรียน Online Video – เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา – ทบทวนได้ไม่จำกัด )

อีกคอร์สเรียน TOEIC ที่น่าสนใจจาก CHULATUTOR เป็นคอร์ส TOEIC ออนไลน์ เรียนผ่านวิดีโอ เลือกเรียนได้ทุกที่ พร้อมนำไปใช้ในการทบทวนเรื่องที่ยังไม่เข้าใจ ดูและฟังซ้ำ ๆ จนสามารถนำไปใช้ในการสอบได้จริง คุ้มค่าอย่างแน่นอนด้วยหลักสูตรมาตรฐานที่ใช้สอบทั่วประเทศ สนใจ คอร์สเรียน TOEIC Online คลิ๊กเลยที่ https://online.chulatutor.com/p/toeic-online/

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เทคนิคเตรียมตัวสอบ สอบ IELTS ฉบับมือใหม่สอบครั้งแรก

เทคนิคเตรียมตัวสอบ สอบ IELTS ฉบับมือใหม่สอบครั้งแรก

ภาษาอังกฤษคือใบเบิกทางอนาคตสำหรับหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครก็ตามที่มีความฝันอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ก่อนที่เราจะสามารถไปเรียนต่อที่ประเทศในฝันได้นั้น มหาวิทยาลัยหลายแห่งที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการเรียนการสอนก็ต้องการผลการ สอบ IELTS ซึ่งเป็นการทดสอบสำคัญที่เราต้องเจอก่อนที่จะเดินสู่ก้าวต่อไปของความฝันในการไปต่างประเทศ

 

การสอบ IELTS คืออะไร จำเป็นต้องสอบหรือไม่?

การสอบ IELTS (International English Language Testing System) คือ การสอบวัดความสามารถทางภาษา ซึ่งข้อสอบถูกออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถของผู้ที่ต้องการเรียนต่อหรือทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารโดยเฉพาะ โดยการทดสอบของ IELTS นั้นได้รับมาตรฐานที่เป็นสากล เป็นที่ยอมรับจากสถานศึกษาและสถาบันชั้นนำทั่วโลก นอกจากนี้การทดสอบยังครอบคลุมทักษะต่างๆ ทั้งการฟัง การอ่าน การเขียน และการพูดอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากใครฝันอยากไปเรียนต่อเมืองนอกหรืออยากทำงานที่มีความจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษ สอบ IELTS ก็เป็นขั้นแรกที่เราต้องเจอและจำเป็นต้องสอบครับ

 

เตรียมตัวสอบ IELTS ฉบับมือใหม่สอบครั้งแรก

ก่อนอื่นเลย เราต้องทำความรู้จักก่อนว่าการสอบ IELTSนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การสอบเพื่อการศึกษาต่อ (Academic Modules) และการสอบเพื่อการฝึกอบรม (General Training Modules) แต่โดยทั่วไปข้อสอบที่เป็นที่นิยมสำหรับคนไทยและนักเรียนนักศึกษาก็คือ การสอบเพื่อการศึกษาต่อ

 

นอกจากรูปแบบการสอบที่แบ่งออกเป็น 2 ประเภทแล้ว ในการทดสอบของ IELTS จะครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ คือ

 

  1. การสอบการฟัง (Listening) ใช้เวลา 30 นาที

สำหรับพาร์ทการฟัง เราจะได้ฟัง CD ที่มีเนื้อหาประเภทบทสนทนาและบทพูดต่างๆ ซึ่งเราจะได้ฟังเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ในเวลา 30 นาทีนี้ก็จะแบ่งเวลาสำหรับการตอบคำถามรวมถึงการตรวจสอบความเรียบร้อยของกระดาษคำตอบเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องฝึกจับการออกเสียงของเจ้าของภาษาให้ได้ พร้อมกับตั้งสติรับมือบทสนทนาที่มีความยาวและความเร็วในการพูดให้ดี

 

การเตรียมตัวสำหรับทำข้อสอบการฟังควรฝึกการฟังเยอะๆ โดยเปิดคลิปข่าว เช่น ข่าวช่อง BBC หรือดูภาพยนต์และซีรี่ย์ที่เป็นเสียงซาวน์แทร็กโดยไม่เปิด Subtitle นอกจากนี้การฝึกทำข้อสอบเก่าหรือฝึกทำข้อสอบเสมือนจริงก็ช่วยพัฒนาทักษะการฟังและการตอบข้อสอบของเราได้ครับ

 

  1. การสอบการอ่าน (Reading) ใช้เวลา 60 นาที

ในพาร์ทการอ่านเราจะได้อ่านบทความทั้งหมด 3 บทความ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาจากนิตยสาร หนังสือพิมพ์ไปจนถึงหนังสือหลากหลายประเภทแบบไม่เจาะจงแนวทางของเนื้อเรื่อง พร้อมทั้งตอบคำถามจำนวน 40 ข้อ

 

การเตรียมตัวในพาร์ทการอ่านนั้นเราต้องฝึกอ่านบทความหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นข่าวสั้นๆ ข่าวขนาดยาว นิยายหรือนิตยสาร ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งเป็นการฝึกเดาคำศัพท์และการเดาความหมายของรูปประโยค ที่สำคัญคือต้องอ่านหัวข้อที่หลากหลาย อย่าเลือกอ่านเฉพาะเรื่องที่ตัวเองชอบหรือสนใจเท่านั้น นอกจากนี้การท่องศัพท์ก็จะช่วยพัฒนาการอ่านของเราด้วย ดังนั้นเวลาอ่านบทความไหนแล้วเจอศัพท์ยากหรือคำที่เราไม่เข้าใจ ให้จดเอาไว้แล้วมาหาคำตอบทีหลังพร้อมทั้งท่องให้จำขึ้นใจ

 

ที่สำคัญอย่าลืมฝึกทำข้อสอบการอ่านแบบจับเวลา เพราะปัญหาหลักๆ ในการทำข้อสอบพาร์ทนี้ก็คือการทำไม่ทันเวลา ดังนั้นการฝึกให้ตัวเองชินกับการอ่านเร็ว จับใจความสำคัญและตอบคำถามให้ครบภายในเวลา 60 นาทีจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ครับ

 

  1. การสอบการเขียน (Writing) ใช้เวลา 60 นาที

ข้อสอบเขียนจะมาพร้อมกับโจทย์ 2 เรื่อง เรื่องแรกจะมีข้อมูลในรูปแบบต่างๆ มาให้เพื่อให้เราเปรียบเทียบข้อมูลเหล่านั้นและเขียนอธิบายอย่างน้อย 150 คำ ส่วนเรื่องที่สองจะเป็นการเขียนเรียงความที่เป็นทางการอย่างน้อย 250 คำ

 

สำหรับพาร์ทการเขียน เราควรฝึกเขียนตั้งแต่การเขียนแบบพารากราฟสั้นๆ ไปจนถึงการเขียนเรียงความ หรือ Essay ขนาดยาว อย่าลืมร่างโครงสร้างของเนื้อหาก่อนเขียนทุกครั้ง จะช่วยทำให้เรามีไอเดียลื่นไหลและเขียนได้อ่านง่าย ไม่วกวน นอกจากนี้อย่าลืมขอให้อาจารย์ ติวเตอร์ หรือเพื่อนที่เก่งภาษาอังกฤษช่วยอ่านและตรวจสอบหลักไวยากรณ์ต่างๆ ให้พร้อมนำมาปรับปรุงทุกๆ ครั้งที่ฝึกเขียนด้วย

 

  1. การสอบการพูด (Speaking) ใช้เวลา 11-14 นาที

การสอบพูดจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ เรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน การพูดตอบคำถามตามที่ได้รับบัตรคำถาม และส่วนสุดท้ายคือการพูดเพื่อโต้ตอบกัน

 

หลายคนอาจจะอาย ไม่กล้าพูดเพราะกลัวผิด แต่เราต้องฝึกครับ ลองฝึกพูดคนเดียวหน้ากระจก เริ่มจากเรื่องง่ายๆ หรือเลือกหัวข้อที่คุณอยากจะฝึกพูด ลองอัดเสียงโดยใช้สมาร์ทโฟนว่าสำเนียงของเราเป็นอย่างไร ออกเสียงชัดเจนไหม ฟังรู้เรื่องหรือไม่ ที่สำคัญอย่าลืมเลือกใช้คำศัพท์ให้เหมาะสมด้วยครับ

 

มือใหม่หลายคนอาจเครียดและกังวลในการสอบ IELTS เพราะนอกจากค่าสอบจะแพงแสนแพงแถมข้อสอบที่ได้ชื่อว่าโหดตามมาตรฐานสากลแล้ว การสอบ IELTS ยังเป็นผลการทดสอบสำคัญสำหรับอนาคตของใครหลายคน แต่ถ้าเราเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งสติ และเข้าสอบอย่างมั่นใจ เชื่อได้เลยครับว่าผลสอบที่ได้ต้องออกมาดีอย่างที่เราหวังแน่นอน

 

แนะนำคอร์สเรียน IELTS Online – เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา

( คอร์สสุดคุ้ม – เรียน Online Video – เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา – ทบทวนได้ไม่จำกัด )

อีกคอร์สเรียน IELTS Online ที่ CHULATUTOR อยากแนะนำให้ได้สมัครกันก็คือคอร์สเรียนแบบวิดีโอ ซึ่งมีความพิเศษมาก ๆ ตรงที่ผู้เรียนจะทบทวนความรู้ต่าง ๆ ได้ตลอดเวลาเพียงแค่เปิดวิดีโอตามเรื่องนั้น ๆ หากมีข้อสงสัยตรงจุดใดก็ย้อนกลับไปทบทวน ทำความเข้าใจใหม่ได้ตลอด เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการสอบ IELTS ภาคใต้เพื่อให้มีโอกาสได้คะแนนที่สูง พร้อมเพิ่มความมั่นใจเพื่อนำเอาใบประกาศไปยื่นเพื่อสมัครเรียนในสถาบันดัง ๆ ที่ต้องการ  สนใจ คอร์สเรียน IELTS Online คลิ๊กเลยที่ https://online.chulatutor.com/p/ielts-online/

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชา BiaBa

ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชา BiaBa

 

BiaBa กัญชาเป็นพืชในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศอบอุ่น เช่น เอเชีย, อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง ในประวัติศาสตร์มี รายงานการใช้ประโยชน์จากกัญชายาวนานกว่าสี่พันปี เช่น ใช้เป็นอาหารคนหรือสัตว์ ใช้เป็นสิ่งเสพติดเพื่อการผ่อน คลาย และใช้ทำอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เชือก หรือเสื้อผ้า รวมถึงใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

 

ทาง BiaBa ร้านกัญชา dispensary เชียงใหม่ มีกัญชาหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก และมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชา ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันกัญชา weed เชียงใหม่ นานาพันธุ์ ให้เลือก ผ่านการคัดกรองอย่างมีคุณภาพสดจากฟาร์ม วันนี้ทาง BiaBa จะแนะนำสายพันธุ์กัญชาไทยที่ได้ผ่านการรับรองในไทยให้กับทุกคนได้รู้จัก และรู้ถึงลักษณะของต้นกัญชาแต่ละพันธุ์ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร  

 

กัญชาพันธุ์ไทย ถือเป็น พันธุ์หายากและพบได้มากบริเวณเทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร และบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี คาดว่ากัญชาพันธุ์ที่พบในประเทศไทยน่าจะถูกนำมาจากทางจีนตอนใต้ และมีการนำไปแยกปลูกในต่างพื้นที่ทำให้มีความหลากหลายทั้งลักษณะสัณฐานวิทยา และปริมาณสารสำคัญที่ได้ โดยแต่ละพันธุ์มีลักษณะพิเศษ ซึ่งมีสายพันธุ์ดังต่อไปนี้

 

สายพันธุ์กัญชาที่จดทะเบียนรับรองในไทย ได้แก่

 

1. พันธุ์ตะนาวศรีก้านขาว

มีลักษณะของช่อดอกจำนวนมาก แน่นเป็นกระจุกบริเวณปลายกิ่ง ลำต้นเป็นทรงพุ่ม มีกลิ่นหอมคล้ายเปลือกส้มผสมตะไคร้

 

2. พันธุ์ตะนาวศรีก้านแดง

มีลักษณะของช่อดอกที่คล้ายกับพันธุ์ตะนาวศรีก้านขาว แต่จะต่างกันคือมีสีแดงที่กิ่ง ก้าน และใบ ไม่มีกลิ่นฉุน มีกลิ่นหอมคล้ายผลไม้สุก

 

3. พันธุ์หางเสือ

มีลักษณะของช่อดอกยาวคล้ายหางเสือตามชื่อ กลิ่นหอมคล้ายเปลือกส้ม และฉุนเล็กน้อย

 

4. พันธุ์หางกระรอก

สายพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ไทยสติ๊ก ได้ชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลก เพราะมี สาร THC ที่สูงมาก ประมาณ 20%

 

และทั้งหมดนี้ก็คือสายพันธุ์กัญชาในไทยที่จดทะเบียนรับรองเรียบร้อยแล้ว ทุกส่วนของกัญชาเป็นที่รู้กันว่านำมาสกัดเป็นยารักษาโรคได้ ไม่ว่าจะเป็น  ลำต้น ใบ เมล็ด อย่างไรก็ตามมีข้อสำคัญที่ต้องคำนึง คือ การใช้งาน ต้องปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้เองโดยพละการ มีผู้ดูแลใกล้ชิด และไม่อยู่ระหว่างขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร ทำงานในที่สูง หากพบอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ให้รีบพบแพทย์

 

  • หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ เจ็บหน้าอก เหงื่อแตก ตัวสั่น
  • หายใจไม่สะดวก อึดอัด
  • เดินเซ พูดไม่ชัด หูแว่ว เห็นภาพหลอน พูดคนเดียว

 

กลุ่มคนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับการใช้กัญชา ได้แก่

 

  • หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท
  • ผู้ที่อยู่ระหว่างรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  • ผู้ป่วยโรคตับ โรคไตขั้นรุนแรง
  • มีประวัติแพ้สารสกัดกัญชา

 

การเตรียมสารสกัดที่มีปริมาณสารสำคัญสูง และควบคุมคุณภาพสารสกัดให้ได้มาตรฐานสากล รวมถึงด้านพิษวิทยาของ “กัญชา” ทั้งในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง เพื่อเป็นข้อมูลส่งเสริมการใช้ “กัญชา” และประเมินความปลอดภัยของ “กัญชา” เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสารสกัด “กัญชา”

 

BiaBa (เบียบ้า) Dispensary weed

092 914 7272

 

 

ติว TOEIC ด้วยตนเอง 16 วัน คอร์สติว TOEIC Online รับรองผล

ติว TOEIC ด้วยตนเอง 16 วัน คอร์สติว TOEIC Online รับรองผล

 

เนื้อหาที่ต้องเจอในการ ติว TOEIC จะประกอบไปด้วย ทักษะภาษาอังกฤษทางด้านการฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) ซึ่งก็รวมไปถึงเรื่องไวยกรณ์ (Grammar) และคำศัพท์ด้วย

โดยเนื้อหาหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนาหรือบทพูดที่อยู่ในพาร์ทการฟัง หรือเนื้อเรื่องที่จะอยู่ในพาร์ทการอ่าน ก็มักจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจ เกี่ยวข้องกับการทำงานหรือที่ทำงาน เช่น การพูดประกาศ การสนทนาถามหาว่าห้องประชุมอยู่ที่ไหน รายละเอียดอีเมลติดต่องาน รายละเอียดกำหนดการกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท โฆษณา บทความทางธุรกิจ หรือจดหมายรับรอง เป็นต้น

เรียน TOEIC ฟรีด้วยตัวเองจากที่ไหนได้บ้าง

เราสามารถเรียน TOEIC ผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ฟรี แต่โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การเรียนจากแบบฝึกหัดมากกว่า โดยจะมีหลาย ๆ เว็บไซต์ที่จะรวบรวมแนวข้อสอบ โจทย์ แบบฝึกหัดของข้อสอบ TOEIC มาให้เราลองฝึกทำดู บางที่ก็ทำเป็นโปรแกรมทำข้อสอบให้เลย แต่บางเว็บไซต์อาจจะแค่มีแนวข้อสอบให้ดูพร้อมเฉลย ซึ่งเฉลยก็จะมีความละเอียดแตกต่างกันออกไป มีคำอธิบายบ้าง ไม่มีบ้าง

อย่างไรก็ตาม เรียน TOEIC ด้วยตัวเองจึงมักจะเหมาะกับผู้ที่พอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้าง เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีการปรับพื้นฐานให้ละเอียดมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นช่องทางการเรียน TOEIC ฟรีที่สามารถช่วยให้เราฝึกทำข้อสอบให้คล่องขึ้นได้ เว็บไซต์ตัวอย่าง เช่น www.examenglish.com หรือ www.ets.org

 

เรียน TOEIC ที่ไหนดี

รูปแบบการเรียน TOEIC มีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบเรียนสดและคอร์สเรียน TOEIC ออนไลน์ สำหรับใครที่กำลังมองหาว่าจะเรียน TOEIC ออนไลน์ หรือสอนสดที่ไหนดี หรือคนที่ไม่อยากเรียนด้วยตัวเอง

แนะนำให้เลือก คอร์ส ติว TOEIC ในแบบที่เราสะดวกมากที่สุด เช่น หากไม่ติดเรื่องการเดินทางก็เลือกคอร์สสอนสด หรือหากไม่สะดวกเดินทางแนะนำเลือกเรียนคอร์สออนไลน์ เพราะสิ่งที่สำคัญคือความต่อเนื่องในการเรียน และจะต้องมีเวลาในการฝึกทำแบบฝึกหัดและทบทวนบทเรียนด้วย

นอกจากนี้การเรียน TOEIC ยังต้องคำนึงถึงเนื้อหาด้วยว่าคอร์สนั้น ๆ มีเนื้อหาครบถ้วนเพียงพอหรือไม่ ซึ่งคอร์สเรียน TOEIC แต่ละแบบอาจมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็แนะนำให้เราเลือกในแบบที่เราสะดวกเป็นหลัก

 

คอร์ส ติว TOEIC Online รับรองผล

เรียน TOEIC ออนไลน์ คอร์สนี้ คือ การเรียน ติว TOEIC แบบวิดีโอเพื่อช่วยให้มีความพร้อมในการสอบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดเด่นของคอร์สนี้คือการที่เราจะเปิดเรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต มีเอกสารประกอบการเรียนให้ดาวน์โหลด ทั้งง่ายและสะดวกสบาย

คอร์ส ติว TOEIC Online เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ว่างไม่เป็นเวลา และไม่สามารถวางแผนตารางเรียนล่วงหน้าได้ ถือเป็นคอร์สที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจากเว็บไซต์หรือจาก pantip เกี่ยวกับการเรียนว่าจะเรียน TOEIC ออนไลน์ที่ไหนดี ก็สามารถให้คอร์สนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเตรียมตัวสอบได้เช่นกัน 

คอร์สเรียน TOEIC ตัวต่อตัว

การเรียนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการติว TOEIC แบบสอนสด โดยทางสถาบันจะมี ติว TOEIC ทั้งสอนสดตัวต่อตัวที่สถาบัน และ ติวสอบ TOEIC ตัวต่อตัวแบบออนไลน์ ทั้งนี้แล้วแต่ผู้เรียนสะดวก

ผู้เรียน TOEIC สามารถกำหนด วันและเวลาที่เรียนเองได้ โดยคอร์สติวตัวต่อตัวคอร์สนี้จะตอบโจทย์ผู้เรียนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้การเรียนการสอนก็จะยึดตามผู้เรียนเป็นหลัก คนที่พื้นฐานอ่อนก็สามารถเริ่มจากการปูพื้นฐานก่อนได้ แต่หากใครที่พื้นฐานดีอยู่แล้ว อยากลงแนวข้อสอบ TOEIC เลย ก็สามารถระบุได้

 

คอร์สเรียน TOEIC สอนสด รับรองผล

การเรียน TOEIC สอนสด รับรองผล เป็นการเรียนแบบกลุ่มที่ผู้เรียนและผู้สอนสามารถพูดคุยกันได้โดยตรง เนื้อหาการเรียนจะครบถ้วนทั้งการปรับพื้นฐาน Grammar และสอนวิธีการทำข้อสอบแบบครบทุกพาร์ท ไม่ว่าจะเป็น Listening หรือ Reading

ดังนั้น การเรียน TOEIC ในคอร์สนี้จะเหมาะกับทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นคนที่พื้นฐานอ่อน ไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษ ยังไม่เคยเห็นแนวข้อสอบ หรืออาจจะพอมีพื้นฐานอยู่บ้างแล้ว แต่ยังอยากทำแบบฝึกหัดที่เยอะขึ้นกว่านี้

คอร์สเรียนนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุม โดยเฉพาะใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะเรียน TOEIC ที่ไหนดี ค้นหาข้อมูลมาเยอะทั้งใน pantip และเว็บบปอร์ดต่าง ๆ แต่ก็ยังเลือกไม่ถูก ให้คอร์สเรียนติว TOEIC รับรองผลที่นี่เป็นตัวช่วยในการเตรียมสอบได้แล้ววันนี้

 

 

เรียน TOEIC ไม่มีพื้นฐาน ไม่ว่าใครก็เพิ่มทักษะให้กับตนเองได้

ไม่ต้องกังวลใจสำหรับใครก็ตามที่วางแผนสอบ TOEIC แต่ปัญหาคือตนเองแทบไม่มีพื้นฐานใด ๆ เลย และไม่กล้าสมัครคอร์สติว TOEIC ด้วยกังวลว่าจะตามเพื่อนไม่ทัน หรือเรียนแล้วไม่คุ้มค่า ถ้าคุณได้รู้จักกับคอร์สติวสอบจาก CHULATUTOR ยืนยันทุกหลักสูตรจะเริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐานไปสู่ระดับ Expert ดังนั้นความรู้ที่ได้รับจากการเรียน TOEIC กับสถาบันของเราจึงครบถ้วน หลังจบคอร์สนำเอาเทคนิคและข้อมูลทุกเรื่องไปใช้สอบและต่อยอดกันไม่ยากเลย

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง 16 วัน

สำหรับคนที่อยากรู้เทคนิคเตรียมสอบ TOEIC ภายใน 16 วัน จะขอแบ่งออกเป็น 3 ช่วง นั่นคือ ช่วง 8 วันแรกจะเน้นเรื่องของการทบทวนพื้นฐานในเรื่อง Grammar TOEIC เพื่อต่อยอดความรู้และนำไปใช้สอบได้กับทุกพาร์ท วันที่ 9-12 จะเน้นติวสอบ Listening Part และวันที่ 13-16 จะติว TOEIC Reading Part เป็นหลัก

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 1 โดยเริ่มต้นพื้นฐาน Grammar

สังเกตว่าเนื้อหาในวันแรกจะเน้นเกี่ยวกับ Part of Speech , Word Forms, Count Nouns VS Uncounted Nouns, Pronouns, Prepositions, Conjunctions, Verbsเป็นหลัก เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญในการทำ Sentence Completion พยายามทบทวน Suffix เพื่อบอกประเภทของคำและเนื้อหาทั่วไป และพื้นฐานทั้ง กริยา คำนาม Adjective, Adverb นามนับได้-นามนับไม่ได้ คำศัพท์นาม คำบุพบท คำเชื่อม

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 2 เน้นเรื่อง Tenses, Passive Voice, Present Subjunctive, Gerunds and Infinitives,Subject-Verb Agreement

วันต่อมาจะเริ่มจาก Subject-Verb Agreement คือ การผันประธานและกริยา ซึ่งเป็นอีกสิ่งสำคัญของไวยากรณ์ ทำความเข้าใจทั้งเรื่อง Tense และการออกเสียง การเปลี่ยนประโยคทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ให้ถูกต้องตามหลัก ทบทวนศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับประโยคกลุ่ม Present Subjunctive

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 3 เน้นเรื่อง Causative Forms, Comparisons, Adverbs of Frequency, Word Choices, Clauses, Conditionals

Causative Forms หรือ เหตุการณ์ที่บอกได้ว่าส่งผลต่อคน ๆ หนึ่งยังไง จะมีคำศัพท์สำคัญเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น help, let, make, have, get ทบทวนโครงสร้างประโยคที่ใช้เพื่อเปรียบเทียบ เรื่องความปริมาณ จำนวน ความถี่ทั้งแบบเจาะจงและไม่เจาะจง รวมถึง Word Choices, Clauses ก็จะเน้นคำศัพท์ที่แต่ละคนมีอยู่ในตัวเอง

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 4 ทบทวนไวยากรณ์ทั้งหมด และเริ่มทำแบบฝึกหัด TOEIC

การติวสอบ TOEIC ด้วยตนเองที่ดีเมื่อเข้าใจหลักพื้นฐานไวยากรณ์ตลอด 3 วันแล้ว คราวนี้ก็ให้ทบทวนแบบคร่าว ๆ และฝึกทำแบบฝึกหัดจริงว่าความรู้ที่มีมากน้อยแค่ไหน สมกับที่ติว TOEIC มา คำแนะนำอีกอย่างคือ เมื่อทำแล้วเฉลยปรากฏข้อไหนผิดให้วงข้อถูกไว้จะได้รู้แนวทางคิดใหม่

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 4 – วันที่ 8 เน้นทำ Grammar Practice ล้วน ๆ

นี่คือ 4 วันแห่งการทำ Grammar Practice หรือซื้อมทำแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับ Grammar ล้วน ๆ ไม่ต้องทำอย่างอื่นเลย ซึ่งปัจจุบันเว็บไซต์ดาวน์โหลดข้อสอบเก่าหรือแบบฝึกหัดเพื่อใช้เรียน TOEIC มีเยอะมาก ย้ำว่าทำให้บ่อยเข้าไว้ เป็นการสร้างพื้นฐานอันยอดเยี่ยม ต่อให้เจอข้อสอบจริงแบบไหนก็หายห่วง มีทั้งลองทำเพื่อเข้าใจและทำพร้อมจับเวลาได้เลย

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 9 ทำข้อสอบ TOEIC เรื่อง Photographs

เป็นการสอบ Listening ส่วนที่ 1 ตอบคำถามจากรูปภาพ 10 ภาพ 10 คำถาม มี 4 ตัวเลือก ต้องคอยระวังคำที่อ่านคล้ายกันแต่คนละความหมาย คำที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ได้มีอยู่ในรูป คำหลักถูกแต่งประโยคไม่เกี่ยวกัน ตัดตัวเลือกให้เร็วและจับคำพูดให้ถูก

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 10 ทำข้อสอบ TOEIC เรื่อง Question-Response

ข้อสอบ Listening ส่วนที่ 2 การสอบ TOEIC นี้จะมี 3 ตัวเลือก ซึ่งจุดหลักที่ควรจับทิศทางให้ถูกคือ คำถามประเภท WH Question who, what, when, where, why, how, how much, how many หรือพวกคำถามทิ้งท้ายประโยค isn’t she? aren’t you? รวมถึงคำถามเน้นการตอบ Yes – No Question ซึ่งอาจขึ้นต้นคำถามด้วย Why not ก็ได้

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 11 ทำข้อสอบ TOEIC เรื่อง Conversations + Short Talks

อีกส่วนของข้อสอบ Listening นับเป็นส่วนยากสุดเลยก็ว่าได้ ต้องตอบ Conversations 3 เรื่อง รวม 30 ข้อ และตอบ Short Talks อีก 30 ข้อ แนะนำให้กวาดสายตาอ่านโจทย์ก่อนจะมีประโยคสนทนาเกิดขึ้น โดยดูคำถาม 3 ข้อ จับคีย์เวิร์ดของโจทย์นั้น ๆ ให้ชัดเจน ขีดเส้นใต้ไว้ได้เลย

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 12 ทำข้อสอบเก่าเรื่อง TOEIC Listening

เมื่อทบทวนเรื่องการฟังมาตลอด 3 วันเต็ม คราวนี้ก็มาเริ่มติวสอบ TOEIC แบบจัดเต็มในพาร์ทนี้ด้วยวิธีจับเวลา ทำบรรยากาศรอบตัวให้เหมือนสอบจริง ไม่ใช่แค่การเสริมความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความประหม่าได้อีกด้วย

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 13 ทำข้อสอบเก่า TOEIC Reading เรื่อง อีเมล ประกาศ บทความ คำศัพท์

อีเมลเป็นสิ่งที่ออกสอบในส่วนของ Reading Comprehension ตลอด จับสังเกตตอนขึ้นต้นประโยคมักเป็น Main Idea ส่วนบทความประเภทอื่น เช่น ประกาศ บทความ ไม่ยากมาก หากพอเข้าใจคำศัพท์ก็ช่วยให้ตอบคำถามได้ ระวังแค่โจทย์อาจมีใช้คำว่า Not หรือ Except หมายถึง ยกเว้นข้อใด

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 14 ทำข้อสอบเก่า TOEIC Reading

ให้ทำแบบเดิม คือ อ่านอีเมล ประกาศ บทความ ค้นคำศัพท์ที่ไม่รู้จัก แต่ลองเปลี่ยนเนื้อหาให้หลากหลาย เช่น โปรโมชั่น การลดราคา บทความด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ฯลฯ

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 15 ทำข้อสอบเก่า TOEIC Reading เรื่อง บทความจากนิตยสาร หนังสือพิมพ์

ลองหาบทความภาษาอังกฤษจากนิตยสารและหนังสือพิมพ์มาอ่านดู เป็นลักษณะของข่าวสั้น สกู๊ป หรือบทความใด ๆ ก็ได้ เพื่อให้เข้าใจโทนเนื้อหาว่าสื่อถึงอะไร รวมถึงตัวอย่างโปสการ์ดที่เขียนให้อีกฝ่ายก็มักออกสอบบ่อยพอควร

 

เรียน TOEIC ด้วยตนเอง วันที่ 16 TOEIC Reading เรื่อง โบชัวร์ แบบฟอร์มลงทะเบียน และอื่น ๆ

วันสุดท้ายก็ยังเน้นกันที่พาร์ท Reading แต่เป็นรูปแบบของโบชัวร์ บทความโฆษณา แบบฟอร์มลงทะเบียน เงื่อนไขการสมัครต่าง ๆ พยายามท่องศัพท์หมวดที่ตนเองไม่มั่นใจ และอย่าลืมนอนเร็ว ทำสมองให้โล่ง เพื่อจะได้ตื่นเช้าพร้อมสำหรับการเข้าสอบ อาจมีการติว TOEIC เพิ่มเติมแบบผ่าน ๆ อีกเล็กน้อยก็ไม่ว่ากัน

 

 

jum-jim.com

เรียน TOEIC
10 App เรียน TOEIC Free – ติว TOEIC ตัวต่อตัว ติว Online

10 App เรียน TOEIC Free – ติว TOEIC ตัวต่อตัว ติว Online

 

TOEIC ( Test of English for International Communication )

เรียน TOEIC สำหรับคนที่สนใจกำลังจะสอบ TOEIC ( Test of English for International Communication )  แล้วต้องเรียนแบบเร่งรัดเพื่อพิชิตข้อสอบ TOEIC และ พัฒนาภาษาอังกฤษสำหรับใช้ทำงาน สถาบันจุฬาติวเตอร์ เปิด private Course สำหรับคนที่สนใจสอบ TOEIC ไม่ว่าจะเป็น คนทำงาน , นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป แม้พื้นฐานจะไม่แม่น เเกรมม่า , พูด-ฟัง ไม่ค่อยได้ หรือ ไม่มีพื้นฐานอังกฤษเลย ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้อนเรียนภาษาอังกฤษจากระดับไหน?? ดี จุฬาติวเตอร์ พร้อมยืนเคียงข้างคุณ นำคุณสู่เป้าหมายดัวย TOEIC private course

 

พื้นฐานอังกฤษ ไม่แน่น จะสอบ TOEIC ได้หร่อ????

สำหรับคนที่กำลังจะสอบ หรือ กำลังจะหาที่ เรียน TOEIC ไม่ต้องกังวลใจสำหรับพื้นฐานอังกฤษ เพราะข้อสอบ TOEIC ไม่ได้ยาก อย่างที่คิด คำศัพท์ส่วนมากจะเป็นคำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน , ข้อสอบ reading ส่วนมากจะไม่ยาวและเป็นเนื้อเรื่องใกล้ตัวที่เราใช้กันอยู่ทุกวันๆ ทางสถาบันจึงช่วยย่อยเรื่องที่ยากแสนยาก ให้กลายเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ว่าจะเป็น สรุปคำศัพท์ ที่ TOEIC ออกประจำ , ฝึกทักษะการจับจุดการ take note และรูปแบบคอร์สที่เน้นทำข้อสอบเก่า ที่จะทำให้คุณใช้เวลาน้อยที่สุดในการเตรียมตัวแต่สามารถสอบผ่าน TOEIC ได้อย่างไม่ยากเย็น

 

จากการที่ทางสถาบันได้เปิดติว TOEIC มานานทำให้เข้าใจถึงผู้สนใจเรียน TOEIC ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนทำงาน หรือไม่ก็เป็นนักศึกษา เรียนอยู่ ปี3-4 ที่จะต้องการใช้คะแนน TOEIC เพื่อยื่นสมัครงาน หรือเลื่อนตำแหน่ง แต่มีเวลาจำกัด หรือไม่สะดวกในการลงเรียนคอร์สสถาบัน เพราะติดเรื่องงานหรือเรื่องเรียน ทางสถาบันจึงได้เปิดคอร์สติว TOEIC แบบ Private Course ซึ่งผู้สนใจเรียนจะได้เรียน TOEIC กับทางอาจารย์แบบตัวต่อตัว และสามารถเลือกวันและเวลาเรียนได้เองได้ ยืดหยุ่นกว่า ให้กับผู้เรียนที่ไม่ค่อยมีเวลาโดยเฉพาะ

 

ติว TOEIC แบบเข้มข้น เลือกวัน เวลา คอร์สเรียน TOEIC ได้เอง

การสอบ TOEIC ถือเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ การมีคอร์สติว TOEIC แบบเข้มข้นโดยติวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมามีคุณภาพ ซึ่งใครกำลังมองหาคอร์สติวสอบ TOEIC หรือต้องการเรียน TOEIC เพื่อเพิ่มเติมความรู้ ทักษะ ให้กับตนเอง ก็มีคอร์สและคำแนะนำดี ๆ จาก CHULATUTOR มาบอกต่อ

 

รีวิว ติว TOEIC CHULATUTOR

ก่อนตัดสินใจเลือกคอร์สติว TOEIC กับทาง CHULATUTOR นี่คือรีวิวจากผู้เรียน TOEIC จริง กับทางสถาบันของเรา เพื่อยืนยันถึงคุณภาพและความคุ้มค่าที่ผู้เรียนทุกคนได้รับกลับไป ใช้ประโยชน์และต่อยอดความสำเร็จของตนเอง

คุณฮาร์ท สอบ TOEIC ได้ 905 คะแนน (Listening 475 คะแนน / Reading 430 คะแนน)

ฮาร์ทลงเรียน TOEIC คอร์สตัวต่อตัวกับทาง จุฬาติวเตอร์ ชอบคอร์สนี้มากที่สุดคือการเรียนการสอนแบบ Hybrid Learning จึงสะดวกสบายสามารถเลือกเรียนสดตัวต่อตัวที่สถาบัน หรือ จะเลือกติวสดออนไลน์ก็ได้ คอร์สนี้ยืดหยุ่นตอบโจทย์ดีมากครับ

 

สอบ TOEIC ได้ 865 คะแนน

คุณริน สอบ TOEIC ได้ 865 คะแนน (Listening 470 คะแนน / Reading 395 คะแนน)

รินลงคอร์ส TOEIC กับทางจุฬาติวเตอร์ ที่ชอบมากเพราะ ครูพี่เกดสอนตั้งแต่พื้นฐาน อัปเดตข้อสอบ TOEIC ให้เสมอ รวมถึงยังเป็นการสอนแบบ Hybrid เลือกวัน เวลาเรียนด้วยตัวเอง เหมาะกับคนไม่ค่อยมีเวลามาก ๆ เลยค่ะ

 

คุณไอด้า สอบ TOEIC ได้ 855 คะแนน

ชอบคอร์สเรียน TOEIC Online เพราะเมื่อเรียนจบแล้ว มีแบบฝึกหัดให้ลองทำด้วย และครูพี่เกด สอนละเอียด ดีมาก เลือกได้ว่าจะเรียนที่สถาบันหรือเรียนออนไลน์ ได้ความรู้แบบเดียวกันเลยค่ะ

 

เรียน TOEIC สอบ ได้ 850 คะแนน

คุณตาล สอบ TOEIC ได้ 850 คะแนน (Listening 455 คะแนน / Reading 395 คะแนน)

ชอบคอร์สนี้มากสุดเพราะเป็นการติว TOEIC Hybrid learning คือ สามารถเลือกได้ว่าวันไหนจะมาติวสดที่สถาบันหรือวันไหนจะติวออนไลน์ผ่าน Zoom ก็ได้ แถมยังสอนตั้งแต่พื้นฐานไม่ว่าจะเป็น Grammar หรือ Tense ต่าง ๆ ดีมากเลยค่ะ

 

ติว TOEIC สอบได้ 815 คะแนน

คุณแชท สอบ TOEIC ได้ 815 คะแนน (Listening 425 คะแนน / Reading 390 คะแนน)

ชอบคอร์ส เรียน TOEIC มากที่สุดคือมีคลิปสรุปคำศัพท์ให้ไปนอนฟัง ช่วยในการเตรียมสอบได้เยอะ มีการปูพื้นฐานทั้งเรื่อง Grammar และ Tense ให้ตั้งแต่แรก รวมถึงยังติวสอบ TOEIC แบบ Hybrid Learning เลือกวัน เวลา ได้เอง สะดวกมากครับ

 

สอบ TOEIC ได้ 815 คะแนน

คุณปลา สอบ TOEIC ได้ 815 คะแนน

ชอบคอร์สที่นี่เพราะมีรูปแบบการ ติว TOEIC เรียกว่า Hybrid Learning คือสามารถเลือกได้เองค่ะ ทั้งติวออนไลน์ ติวตัวต่อตัว ติวผ่าน Zoom แนะนำสำหรับคนที่อยากจะลงคอร์สแบบที่เดียวเห็นผล ต้องที่นี่

 

เรียน TOEIC สอบ ได้ 800 คะแนน

คุณแตงกวา สอบ TOEIC ได้ 800 คะแนน

ลงคอร์สเรียน TOEIC Online กับครูพี่เกด ชอบที่นี่เพราะตัวคอร์สสอนตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงถึงเนื้อหาข้อสอบ และที่ชอบมากคือมีคลิป สรุปคำศัพท์ ให้ฟังด้วย เรียนที่บ้านแบบคอร์สออนไลน์ หรือเรียนที่สถาบันก็ได้ความรู้เหมือนกันค่ะ

 

ติว toeic สอบ ได้ 765 คะแนน

คุณอิน สอบ TOEIC ได้ 765 คะแนน

เลือกเรียน TOEIC ที่นี่เพราะเนื้อหาสอนตั้งแต่เริ่มต้นโดยเฉพาะ Grammar แถมยังมีความกระชับ เรียนจบไว เข้าใจง่าย มีคำศัพท์ให้ฝึกท่อง แนวข้อสอบอัปเดตใหม่ให้ตลอด สะดวกเรียนแบบไหนก็เลือกเองได้เลยค่ะ

 

ติว TOEIC ได้ 755 คะแนน

คุณ Kristine สอบ TOEIC ได้ 755 คะแนน

ที่เลือกที่นี่เพราะอยากได้คอร์สสอนตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงข้อสอบ แต่เนื้อหาต้องกระชับ ด้วยเป็นคนไม่ค่อยมีเวลาค่ะ ซึ่งสิ่งที่ชอบมากสุดคือ คลิปคำศัพท์ที่ออกบ่อย ช่วยให้ได้ทบทวนเนื้อหาภาพรวมก่อนสอบได้อย่างดีเลยค่ะ

 

TOEIC Private Course

TOEIC private course สถาบันจุฬาติวเตอร์ ได้ตระหนักถึงคนทำงาน , นักศึกษา ที่กำลังหาที่ เรียน TOEIC แต่ติดปัญหาเรื่อง เวลา ทางสถาบันจึงได้เปิด TOEIC private course สำหรับคนที่ต้องการคะแนน TOEIC แบบเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลื่อนตำแหน่ง , ยื่นจบ , สมัครงาน เป็นต้น ด้วยรูปแบบคอร์สที่ผู้เรียนสามารถเลือกวันเเละเวลาเรียนได้เอง จึงยืนหยุ่นกว่าที่อื่นและทีมอาจารย์ที่มากประสบการณ์ที่จะมา Update ข้อสอบ TOEIC รอบล่าสุด ชนิดเดือนต่อเดือน ยิ่งจะทำให้ผู้สมัครเรียนมั่นใจ ได้ว่าจะสอบผ่าน TOEIC ได้อย่างแน่นอน…….และรูปแบบการประเมินผลที่จะช่วยให้ผู้เรียน รู้จุดเเข็ง , จุดอ่อน ของตัวเองเพื่อเป็นแนวทางในการใช้วางแผนสำหรับสอบจริง แล้วคุณจะรู้ว่า TOEIC กว่าที่คิด

 

ติว TOEIC ตัวต่อตัว

คอร์สติวสอบ TOEIC แบบตัวต่อตัวจาสถาบันจุฬาติวเตอร์ เป็นการสอนในลักษณะ Hybrid Learning ให้ความสะดวกกับผู้เรียนมากที่สุด จะเลือกเรียนสดในสถาบันมีห้องแยกพิเศษให้ต่างหาก หรือเรียนออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom ก็ไม่มีปัญหา ได้ความรู้ครบถ้วนเหมือนกันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เรียนเป็นสำคัญ

 

ติว TOEIC Online

คอร์สเรียน TOEIC Online เนื้อหาการสอนละเอียดครบถ้วนทุกพาร์ทข้อสอบในคอร์สเดียว รูปแบบการติว TOEIC ผ่านคลิปวิดีโอออนไลน์ เนื้อหาครบถ้วนกว่า 25 คลิป สมัครแล้วเข้าเรียนได้ทันที หากมีข้อสงสัยสามารถย้อนกลับไปดูใหม่ได้ตลอด ยืนยันว่าเนื้อหาทั้งหมดเป็นแนวทางการสอนแบบเดียวกับในสถาบัน

กำหนดแนวทางเรียนโดย ครูพี่เกด จุฬาติวเตอร์ ปริญญาตรีเกียรตินิยม อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบการศึกษาจาก International Marketing Sweden มีประสบการณ์สอนภาษาอังกฤษมากกว่า 10 ปี และยังเป็นผู้เริ่มรีวิวข้อสอบภาษาอังกฤษคนแรกของไทย มั่นใจว่าทุกคนได้ความรู้แบบครบถ้วนสำหรับสอบ TOEIC แน่นนอน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://online.chulatutor.com/p/toeic-online

 

 

คอร์สติว TOEIC รับรองผล

แนะนำคอร์สติว TOEIC รับรองผล ใช้แนวทางการสอนแบบกลุ่มเล็กด้วยรูปแบบ Hybrid Learning สามารถเลือกได้ทั้งเข้าเรียนในสถาบัน มีการแยกห้องเรียนเฉพาะเพื่อความเป็นส่วนตัว หรือใครเน้นความสะดวกด้วยการเรียนสดออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom ก็ได้เช่นกัน หากมีข้อสงสัยเรื่องใดสอบถามได้ทันที ติวเตอร์พร้อมให้ความรู้อย่างเต็มที่

 

10 App เรียน TOEIC Free

 

1. เรียน TOEIC กับ APP MASTER

แอปเรียน TOEIC ยอดนิยมที่หลายคนคุ้นเคยดี โดดเด่นด้วยการมีเนื้อหาข้อสอบที่ครบถ้วน สามารถฝึกทำข้อสอบได้ อีกทั้งยังมีเรื่องของคำศัพท์ ตัวอย่างข้อสอบ และจุดที่ผู้สอบส่วนมากจะพลาดมาให้ได้ศึกษา ดาวน์โหลดติดมือถือเอาไว้เลย

 

2. APP ติว TOEIC Listening & Reading

จุดเด่นของแอปนี้คือการรวมเอาข้อสอบการฟัง การอ่าน รวมถึงคำศัพท์ต่าง ๆ มาไว้ให้แบบเสร็จสรรพ และเนื้อหาอื่นที่น่าสนใจก็ยังมีไว้ต่อยอดความรู้ด้วย เช่น วลี สำนวนในภาษาอังกฤษ ไวยากรณ์ (Grammar) ไปจนถึงเนื้อหา TOEIC, IELTS ชั้นสูง เนื้อหาการเรียน TOEFL

 

3. TOTAL : TOEIC Listening Practice Tests

แอปที่เหมาะสำหรับคนอยากฝึกพาร์ทการฟัง เนื้อหาตัวอย่างมี 4 พาร์ท ได้แก่ Picture Description, Questions & responses, Short Conversations และ Short Talks จับเทคนิคเพื่อให้การฟังเข้าใจง่ายขึ้น

 

4. APP เรียน Listening Prep TOEIC Test

อีกแอปดี ๆ สำหรับคนที่ต้องการติวสอบ TOEIC พาร์ทการฟังสุด Advance เพราะมีด้วยกันถึง 3 เวอร์ชัน ได้แก่ Listening Prep 1/3, Listening Prep 2/3 และ Listening Prep 3/3 ซึ่งคนที่สงสัยว่าทำไมมีเยอะ เหตุผลก็มาจากแอปนี้จะมีทั้งสิ้น 9 พาร์ท เรียกว่าโหลดมา 3 เวอร์ชัน แล้วมีโอกาสเป็นตัวจริงเรื่องการฟังไม่ยากเลย

 

5. APP ติวสอบ TOEIC Test,  TOEIC Practice – TOEIC  Listening

จุดเด่นที่คนส่วนใหญ่บอกเหมือนกันคือ นี่เป็นแอปที่จำลองข้อสอบให้คล้ายกับการสอบ TOEIC มากที่สุด แบ่งเป็นพาร์ทให้ทั้งหมด 7 พาร์ท ใช้งานง่าย แถมไม่ต้องออนไลน์ตลอดเวลา แม้ช่วงไหนไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ยังติวได้ตามปกติ

 

6. APP ติว TOEIC Test: Improve your score

ใครอยากติวสอบ TOEIC ทั้งพาร์ท Reading และ Listening เลือกแอปนี้ไม่ผิดหวังแน่ ด้วยโจทย์ที่ครอบคลุม และมีการกำหนดพาร์ทที่อยู่ในการสอบจริงมาให้ได้ลองทำ อาทิ Photographs, Question Response, Incomplete Sentences เรียกว่าถ้าทำผ่านหมดก็ไม่ใช่เรื่องยากในการสอบจริงแน่

 

7. APP Johnny Grammar

ใครชอบท้าทายตัวเองมีแอปนี้สนุกมาก จะได้จับเวลาเพื่อฝึกให้คล้ายกับการทำข้อสอบจริง แบ่งระดับการทำได้ตั้งแต่ ง่าย ปานกลาง ยาก เนื้อหามีทั้งการสะกดคำ คำศัพท์ และไวยากรณ์ ถือเป็นแอปเกมก็คงไม่ผิดเท่าใดนัก

 

8. APP English Tests

แอปนี้โดดเด่นตั้งแต่โลโก้ที่สะดุดตา แต่ขอบอกว่าเนื้อหาจัดเต็มไม่แพ้ใคร คำถามมีการไล่เรียงตามระดับความยากง่าย และยังมีข้อสอบ TOEFL และ IELTS รวมเอาไว้ไห้ด้วย

 

9. APP ติว TOEIC GAME

มาในแนวเกมเพื่อฝึกทักษะและคำศัพท์ที่มักออกบ่อย จดจำง่าย มีเกมให้เลือกเยอะมาก เช่น เกมป้องกันปลา ป้องกันหมีแพนด้า ป้องกันกบ พร้อมเสริมทักษะการเขียนและอ่านไปพร้อมกันอีกด้วย

 

10. APP เรียน TOEIC Zombie

เป็นแนวเกมทายคำศัพท์ เลือกระดับได้ตั้งแต่ง่าย ปานกลาง และยาก แต่ใครที่อยากใช้ติวสอบ TOEIC แนะนำให้เลือกระดับยาก ไล่ล่าฆ่าซอมบี้ให้ตายและยังสามารถจำศัพท์เอาไปใช้งานได้อีกด้วย

 

 

เรียน IELTS
What is IELTS ? 

What is IELTS ? 

 

What is IELTS ? The International English Language Testing System หรือที่เรียก ย่อ ว่า IELTS คือ ระบบทดสอบความรู้ ความสามารถทางภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา จัดการทดสอบ IELTS Test โดย British Council และ IELTS IDP (Australia และ Cambridge Assessment English) ซึ่งเป็นการทดสอบภาษาอังกฤษที่ใหญที่สุดในโลก

IELTS ได้มีการสอบครั้งแรกในปี 1980 โดย Cambridge English Language Assessment ( หรือ UCLES) และ British Council ซึ่งต่อมาเป็นที่นิยมอย่างมาก หน่วยงานจัดสอบจึงได้ร่วมมือกับ the International Development Program of Australian Universities and Colleges หรือที่รู้จักกันว่า IDP: IELTS Australia ในการพัฒนาแบบทดสอบให้เป็นที่นิยมและแผ่หลายมากยิ่งขึ้น

 

โครงสร้างข้อสอบ IELTS

  1. IELTS Academic ใข้สำหรับยื่นเข้ามหาลัยและทำงาน
  2. IELTS General ใช้สำหรับ ทำงาน หรือ การขอวีซ่า ย้ายถิ่น
  3. IELTS Life Skills ใช้สำหรับขอวีซ่า ทดสอบการพูดและการฟังภาษาอังกฤษเป็นหลัก

 

ข้อสอบ IELTS มี 4 พาร์ท คือ

Listening : 30 นาที

Reading : 60 นาที

Writing : 60 นาที

Speaking : 11–14 นาที

รวมเวลาสอบ IELTS ทั้งหมด : 2 ชั่วโมง 45 นาที

 

What is IELTS Listening ?

ข้อสอบ Listening มี 4 Section แต่ละ Section มี 10 คำถาม เวลาสอบทั้งหมด 40 นาที

Listening Section 1 เป็นการฟังบทสนทนาคน 2 คนพูดกัน โดยเรื่องที่พูดจะเป็นเรื่องราวทั่วไปในชีวิตประจำวัน

Listening Section 2 เป็นการฟังคนเดียวพูด โดยเนื้อหาที่พูดจะกึ่งเป็นทางการ

Listening Section 3 เป็นการฟังบทสนทนา ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เนื้อหาที่พูดจะเป็นทางการ

Listening Section 4 เป็นการฟังคนเดียวพูด โดยเนื้อหาที่พูดจะเป็นทางการ

 

What is IELTS Reading ?

ข้อสอบ IELTS Reading มี 40 ข้อ เวลาสอบ 60 นาที เฉลี่ยเวลาในการทำข้อสอบ ข้อละ 1.5 นาที สำหรับข้อสอบ Reading บทความส่วนมากจะเป็น บทความเชิงวิชาการ

รูปแบบคำถามใน Reading จะมีหลากหลายรูปแบบเช่น Multiple Choice, Sentence Completion, Matching Information True/False/Not Given, Yes/No/Not Given

 

What is IELTS Writing ?

ข้อสอบ IELTS Writing จะให้เวลาในการสอบ 60 นาที ข้อสอบ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ IELTS Writing Task 1 และ IELTS Writing Task 2

What is IELTS Writing Task 1 ?

เป็นการสอบ Writing โดยผู้สอบจะต้องเขียนอย่างน้อย 150 คำ ในเวลา 20 นาที

What is IELTS Writing Task 1 ?

เป็นการสอบ Writing โดยผู้สอบจะต้องเขียนอย่างน้อย 250 คำ ในเวลา 40 นาที

IELTS Academic

Writing Task 1 : ผู้สอบจะต้องอธิบาย กราฟ , ตาราง , แผนภูมิ

Writing Task 2 : ผู้สอบจะต้องเสนอความคิดเห็นในงานเขียน เกี่ยวกับ มุมมอง วิเคราะห์ ให้เหตุผล เปรียบเทียบ และ โต้แย้ง ในหัวข้อที่ข้อสอบกำหนดมาให้

IELTS General Training

Writing Task 1 : ผู้สอบจะต้องเขียนเกี่ยวกับจดหมายโต้ตอบในสถานการณ์ที่โจทย์กำหนดให้

Writing Task 2 : ผู้สอบจะต้องเขียนเรียงความ เกี่ยวกับหัวข้อที่ข้อสอบกำหนดมาให้

 

What is IELTS Speaking ?

เป็นการสอบพูดตัวต่อตัว กับผู้คุมสอบ ข้อสอบจะมี 3 Sections

Speaking Section 1 : ส่วนนี้จะเป็นการพูดคุยกับผู้คุมสอบ 4-5 นาที โดยจะเป็นเรื่องที่พูดคุยจะเป็นเรื่องทั่วไป เช่น เสื้อผ้า เวลาว่าง ทำไมถึงมาสอบ IELTS

Speaking Section 2 : หัวข้อนี้จะสอบประมาณ 3-4 นาที โดยผู้สอบจะได้การ์ดหัวข้อสอบ แล้วพูดในหัวข้อนั้น พร้อมเสนอมุมมองของผู้สอบ

Speaking Section 3 : หัวข้อนี้จะสอบประมาณ 4-5 นาที โดยส่วนมาก หัวข้อที่พูดจะเป็นหัวข้อเดียวกับ Section 2 ที่พึ่่งพูดไป แต่จะเน้นการเสนอมุมมอง โต้แย้ง และเหตุผล

 

คอร์ส IELTS จากจุฬาติวเตอร์ รับรองผล ทำคะแนนได้ตามเป้าหมาย

คอร์ส IELTS ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้สอบทุกคนมีโอกาสทำคะแนนได้ตามเป้าหมายที่คาดหวังเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการนำคะแนนไปใช้สำหรับการสมัครเรียน สมัครงาน หรือย้ายถิ่นฐานก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงอยากแนะนำคอร์สดี ๆ จากจุฬาติวเตอร์เพื่อการทำตามเป้าหมาย เป็นคอร์สรับรองผล เรียนได้จนกว่าจะสอบผ่านตามเกณฑ์อย่างเหมาะสม มาพร้อมประเภทคอร์สให้เลือกตามความสะดวกของผู้เรียน ยืนยันมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดไม่ต้องกังวลใจ

 

คอร์ส IELTS ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การสอบง่ายขึ้นกว่าเดิม

แม้หลายคนจะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาอย่างดี แต่ต้องไม่ลืมว่าข้อสอบไอเอลถูกออกแบบมาเพื่อประเมินทักษะและเป็นการสร้างความมั่นใจว่าผู้สอบสามารถใช้งานภาษาอังกฤษในทุกสถานการณ์ได้อย่างมีคุณภาพ เนื้อหาจึงต้องเน้นย้ำเฉพาะจุดหลายด้าน ด้วยเหตุนี้การมีโอกาสได้เรียนกับคอร์ส IELTS ที่มีประสิทธิภาพย่อมช่วยให้ทุกคนเกิดความเข้าใจถึงรายละเอียดการสอบได้อย่างตรงจุดมากที่สุด มีคำแนะนำดี ๆ จากติวเตอร์เพื่อใช้ระหว่างสอบได้จริง ยิ่งกว่านั้นยังลดความเครียด ความกังวลใจลงได้อีกเยอะมากทีเดียว

 

แนะนำคอร์สเรียน IELTS ฟรี มีครบถ้วนทุกพาร์ทการสอบ

สำหรับใครที่มั่นใจว่าตนเองมีพื้นฐานความรู้ภาษาอังกฤษแม่นยำ แต่อยากเพิ่มเติมรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตนเองก็มีคอร์ส เรียน IELTS ฟรี มาแนะนำ ยืนยันรายละเอียดครบถ้วนทุกพาร์ทการสอบ ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว

 

  1. คอร์สเรียน IELTS Writing ฟรี

คอร์ส IELTS เป็นการวิเคราะห์ข้อสอบเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพอย่างชัดเจน พร้อมคำแนะนำดี ๆ จากติวเตอร์มากประสบการณ์เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับพาร์ทด้านการเขียนมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคำศัพท์ ประโยค หรือเทคนิคทุกอย่างครบถ้วนสนใจคลิกเลย

 

  1. คอร์สเรียน IELTS Listening ฟรี

คลิปเรียนออนไลน์ในลักษณะของการวิเคราะห์ข้อสอบในพาร์ทของการฟัง ซึ่งถือเป็นพาร์ทที่มีความยากอยู่พอสมควร แม้มีทักษะของตนเองอยู่แล้วแต่เมื่อได้การเน้นย้ำจากติวเตอร์ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ พร้อมใช้คำแนะนำเพื่อการสอบอย่างมีคุณภาพ คลิกเลย

 

  1. คอร์สเรียน IELTS Reading ฟรี

ติวเตอร์จะทำการวิเคราะห์ข้อสอบในพาร์ทของการอ่านเพื่อให้ผู้สอบทุกคนรู้เทคนิคดี ๆ อ่านได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาจำกัด รู้วิธีจับใจความอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ต้องเสียเวลา และสามารถวิเคราะห์ข้อสอบแต่ละส่วนได้ทันที คะแนนออกมาดี สนใจคลิกเลย

 

  1. ติวสอบ IELTS ฟรี IELTS Speaking

คอร์สเรียน IELTS ฟรี ในพาร์ทของการพูด ซึ่งผู้สอบต้องมีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ดังนั้นการรู้ว่าส่วนใหญ่แล้วมักมีคำถามแบบไหน และควรตอบอย่างไร จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ลดความตื่นเต้น และความเครียดลง โอกาสทำคะแนนได้สูงตามเป้าหมายก็ไม่ยาก คลิกเลย

 

เรียน IELTS Online ที่ไหนดี มีคำแนะนำดี ๆ มาบอกต่อ

คำถามที่หลายคนสงสัยว่าจะเรียน IELTS Online ที่ไหนดี ต้องไม่พลาดกับคอร์ส IELTS จากจุฬาติวเตอร์ มีด้วยกันถึง 3 ประเภท เลือกในรูปแบบที่ตนเองสะดวกได้เลย ยืนยันทุกคอร์สมีเนื้อหาอัดแน่นแบบเดียวกันทั้งหมด ไม่ต้องกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น

 

  1. คอร์ส IELTS ติวออนไลน์ แบบวิดีโอ สมัครแล้วเรียนได้ทันที

คอร์ส IELTS ออนไลน์นี้เป็นการเรียนผ่านคลิปวิดีโอ ติวเตอร์ของเราได้ทำการรวมเนื้อหาเอาไว้ครบถ้วน รวมถึงจัดเรียงเนื้อหาการสอนเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากที่สุด สะดวกสบาย สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา สมัครแล้วเริ่มต้นเรียนได้เลย คอร์สรับรองผล กรณีต้องการทบทวนเนื้อหาซ้ำอย่างง่ายดายเพียงแค่คลิกเข้าไปดูช่วงเวลาที่ต้องการ ทางเลือกดี ๆ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสทำคะแนนได้ตามเป้าหมาย

ดูรายละเอียดคอร์สเรียนออนไลน์ https://online.chulatutor.com/p/ielts-online

 

  1. คอร์ส IELTS ตัวต่อตัวออนไลน์ เลือกวันและเวลาเรียนได้เลย

คอร์ส IELTS แบบตัวต่อตัวจาก CHULATUTOR เนื้อหาการเรียนถูกเรียบเรียงไว้อย่างเหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน คอร์สออนไลน์นี้จะเรียนผ่านโปรแกรม Zoom ตอบโจทย์ยุค New Normal ของแท้ ไม่ต้องเสียเวลาเข้าสถาบัน อัดแน่นไปด้วยเทคนิคและเนื้อหาแบบเน้น ๆ ทุกพาร์ท เลือกวัน-เวลาในการเรียนด้วยตนเองอย่างง่ายดาย สอบผ่านตามสิ่งที่ตนเองคาดหวังเอาไว้ไม่ใช่เรื่องยาก

 

  1. คอร์ส IELTS รับรองผล ออนไลน์ สอนแบบสด ๆ

คอร์ส IELTS จากติวเตอร์ของ “จุฬาติวเตอร์” ตามแนวทางการสอนแบบ Hybrid Learning เพื่อการเรียนรู้อย่างครอบคลุมผ่านโปรแกรม Zoom เนื้อหาเจาะลึก อัดแน่นทุกรายละเอียด หากมีข้อสงสัยใด ๆ สามารถสอบถามพูดคุยได้ทันที คอร์สรับรองผลเรียนได้จนกว่าจะสอบผ่านตามเกณฑ์คะแนนที่เหมาะสม เพิ่มความมั่นใจ ช่วยสร้างผลลัพธ์ตามที่ตนเองต้องการ

 

คอร์ส IELTS ออนไลน์ รับรองผล สอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน

สำหรับคนที่กังวลใจว่าตนเองไม่ได้มีทักษะเบื้องต้นใด ๆ มากนักทั้งเรื่องของภาษาอังกฤษและความเข้าใจเรื่องของข้อสอบ คอร์ส IELTS ออนไลน์จากจุฬาติวเตอร์ยินดีสอนให้ตั้งแต่ขั้นปูพื้นฐานพร้อมมีการรับรองผลเพื่อการทำตามเป้าหมายได้อย่างที่คาดหวัง สะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาเข้ามายังสถาบัน เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เพิ่มความมมั่นใจและสร้างผลลัพธ์ในแบบที่ทุกคนคาดหวังเอาไว้ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด

 

เรียน IELTS ที่ไหนดี มีคำตอบมาบอกแล้ว

อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่สนใจเรียน IELTS ด้วยวิธีเข้าเรียนในสถาบัน ทางด้าน CHULATUTOR ก็ยังคงมีคอร์ส IELTS ให้ได้เข้าเรียนกับทางสถาบันของเราด้วย เป็นการเรียนแบบสด ๆ สอนโดยติวเตอร์ที่มีความรู้ มากประสบการณ์ในด้านไอเอลมาอย่างยาวนาน คอร์สรับรองผล เรียนแบบ Hybrid Learning ครอบคลุมและตอบโจทย์มาก กลุ่มขนาดเล็กแยกเป็นห้องไม่เกิน 10 คน เรียนจนกว่าจะได้คะแนนตามเกณฑ์ที่เหมาะสม

 

คอร์ส IELTS ราคาไม่แพงอย่างที่คิด คุ้มค่าเงินทุกบาท

จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าคอร์ส IELTS ราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด เพราะสามารถจ่ายเริ่มต้นเพียงหลัก 1,000 กว่าบาทเท่านั้น คุ้มค่ามากกว่าเคย เพราะเป็นคอร์สรับรองผล เลือกได้ทั้งการเรียนออนไลน์ และการเข้าเรียนที่สถาบันแบบสด ๆ โดยตรง กลุ่มขนาดเล็ก เรียนอย่างมั่นใจ นำความรู้ไปใช้ตั้งแต่การสอบไปจนถึงการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิต ไม่ผิดหวังแน่

 

ติว IELTS
5 เว็บไซต์ เรียน IELTS Free – ติว IELTS ตัวต่อตัว ติว Online

5 เว็บไซต์ เรียน IELTS Free – ติว IELTS ตัวต่อตัว ติว Online

 

การสอบ IELTS คือ รูปแบบการสอบเพื่อวัดทักษะและความรู้ทางภาษาอังกฤษสำหรับคนที่ต้องการนำไปใช้สมัครเรียนต่อต่างประเทศ เรียนในสถาบันชั้นนำของเมืองไทย รวมถึงการสมัครงาน ซึ่งใครที่กำลังมองหาคอร์สดีๆ ในการ “เรียน  IELTS” ขอแนะนำคอร์สติว IELTS จาก CHULA TUTOR เลือกได้ตามความเหมาะสมเลย

 

ทำไมต้องเรียน ติว IELTS กับ CHULA TUTOR

การเลือก ติว IELTS กับสถาบันจุฬาติวเตอร์จะช่วยให้ทุกคนได้รับความรู้แบบครบถ้วนในทุกด้าน พร้อมรูปแบบคอร์สเรียน IELTS ที่หลากหลาย และเพื่อความมั่นใจลองมาดูรีวิวจากคนที่เคยเรียนจริงว่ามีผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง

 

มิก สอบ IELTS Test ครั้งแรกได้ คะแนน 7.5

มิก นิสิตจุฬาฯ เลือกติว IELTS คอร์สสดสถาบัน สิ่งที่ชอบมากสุดคือการมี Tool ช่วยเรียนเยอะมาก เรียนแล้วไปสอบ IELTS Test 7.5

 

ปันปัน สอบ IELTS Test ครั้งแรกได้ คะแนน 7.0

ปันปัน อาจารย์มหาวิทยาลัย เลือกเรียน IELTS คอร์สสดกับทางสถาบัน ที่ชอบมากสุดคือ ได้เรียนกับครูฝรั่ง เจ้าของภาษาโดยตรง หลังเรียนแล้วไปสอบ IELTS Test ได้ 7.5

 

มายด์ สอบ IELTS Test ครั้งแรกได้ คะแนน 7.0

มายด์ ลงติวสอบ IELTS คอร์สสดได้ 7.0 (Reading 7.5, Listening 7.5, Speaking 7.0, Writing 6.5) ที่ชอบมากสุดยกให้กับ Tool ต่าง ๆ ที่ช่วยทบทวนเนื้อหาหลังเรียนเสร็จ และยังเป็นการติวกลุ่มเล็ก ทำให้ถามครูได้ตลอดเวลาที่สงสัย

 

เจด้า สอบ IELTS Test ครั้งแรกได้ คะแนน 7.5

เจด้า ลงคอร์สเรียน IELTS สดที่สถาบัน สิ่งที่ชอบมากสุดคือ มีการตรวจ Writing แบบละเอียดมาก หลังเรียนเสร็จไปสอบได้ 7.5

 

เบล สอบ IELTS Test ครั้งแรกได้ คะแนน 7.0

เบล (ปัจจุบันเรียนอยู่ที่ ABAC) เลือกเรียน IELTS คอร์สสดกับทางสถาบัน ชอบมากที่สุดคือการมี TOOL สรุปเรื่องที่เรียนให้ทุกวัน หลังเรียนเสร็จไปสอบได้ 7.5

 

คิม สอบ IELTS Test ครั้งแรกได้ คะแนน 7.5

คิม (ศิษย์เก่า ม.มหิดล) เลือกติว IELTS คอร์สสดที่สถาบัน ความประทับใจคือ คอร์สมีสอนตั้งแต่พื้นฐาน Grammar และ คำศัพท์ พร้อมทั้งเอาข้อสอบมาให้ทำ หลังเรียนเสร็จไปสอบได้ 7.5

 

พิม สอบ IELTS Test ครั้งแรกได้ 7.5

พิม สอบ IELTS Test ครั้งแรกได้ 7.5

พิม (ศิษย์เก่า MUIC) เลือกเรียนคอร์ส IELTS ที่นี่ชอบมากสุด คือ คอร์สเป็นการสอนสดแบบกลุ่มเล็ก หลังเรียนเสร็จไปสอบได้ 7.5 (Listening 7.0, Reading 7.0, Writing 7.0, Speaking 8.5)

 

ไม่มีพื้นฐาน IELTS เรียนได้ไหม?

แม้เป็นคนที่ไม่มีพื้นฐาน IELTS ใด ๆ มาก่อนเลยก็สามารถเลือกติวสอบ IELTS จาก CHULA TUTOR ได้ เพราะทุกคอร์สจะมีการสอนตั้งแต่ปูพื้นฐานเบื้องต้นเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจ และสามารถต่อยอดความรู้ในด้านต่าง ๆ สำหรับนำไปใช้สอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทางสถาบันมีคอร์ส IELTS แบบไหนบ้าง?

สำหรับคอร์ส IELTS ของทางสถาบันจุฬาติวเตอร์ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และความต้องการของทุกคน ยืนยันว่าทุกคอร์สได้รับความรู้ ทักษะ และเทคนิคเพื่อนำไปใช้สอบ IELTS เหมือนกัน โดยแต่ละคอร์สมีดังนี้

 

คอร์ส IELTS สอนสด รับรองผล

เป็นคอร์สการเรียน IELTS ในรูปแบบ Hybrid learning คือ สามารถเลือกได้ทั้งการเรียนสดที่สถาบันหรือเรียนสดออนไลน์ผ่านทาง Zoom ในคอร์สจะมีคลิปวีดีโอการสรุป Grammar IELTS และ คำศัพท์ IELTS ที่มักออกสอบบ่อย ๆ ให้ดูก่อนเริ่มคลาส เหมือนเป็นการปูพื้นฐานผู้เรียน IELTS

แต่ในกรณีที่ผู้เรียนไม่มีเวลาทบทวนก่อนเริ่มเรียนก็จะมีสอน Grammar และ ทุกครั้งที่เรียนเสร็จยังมีวีดีโอให้กลับไปทบทวนเพิ่มเติม อีกทั้งยังได้เรียน Speaking กับครูฝรั่งเจ้าของภาษ ทำให้ทุกคนฝึกพูดได้อย่างมั่นใจก่อนไปสอบจริง

คอร์สติว IELTS แบบตัวต่อตัว

เป็นคอร์สการติว IELTS ที่ผู้เรียนจะได้เรียนกับติวเตอร์มากประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญด้านการสอน IELTS แบบเฉพาะทาง ซึ่งเป็นการสอนแบบตัวต่อตัว เน้นทุกจุดที่ยังมีข้อสงสัย สอบถามได้ตลอด สามารถเลือกวัน-เวลาในการเรียนด้วยตนเองตามความสะดวก ด้วยการสอนรูปแบบ Hybrid Learning จะเรียนสดที่สถาบันก็มีห้องแยกให้ต่างหากหรือเรียนออนไลน์ผ่าน Zoom ก็ไม่มีปัญหา

 

ติวตัวต่อตัว
จำนวนนักเรียน จำนวนชั่วโมง
10 ชม. 20 ชม. 30 ชม. 40 ชม.
1 คน 14,000 ฿ 22,000 ฿ 33,000 ฿ 44,000 ฿
2 คน

(ประหยัดถึง 25%)

21,000 ฿ 33,000 ฿ 49,500 ฿ 66,000 ฿
3 คน

(ประหยัดถึง 40%)

29,680 ฿ 39,600 ฿ 59,400 ฿ 79,200 ฿
      แถมฟรี 2 ชม. แถมฟรี 4 ชม.
หมายเหตุ : คอร์สส่วนตัว ห้องเรียนส่วนตัว เรียนที่สถาบัน กับ ติวเตอร์มากประสบการณ์ สามารถเลือกวันและเวลา เรียนเองได้

คอร์สเรียน IELTS Online

เป็นคอร์สการติวสอบ IELTS ในรูปแบบคลิปวิดีโอ เมื่อสมัครแล้วสามารถเข้าเรียนได้ทันที สะดวกสบาย เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา และยังมีการแบ่งรูปแบบเนื้อหาตามความต้องการที่ผู้เรียนสนใจอีกด้วย ได้แก่

 

คอร์สเรียน IELTS Grammar Online

เนื้อหาเน้นการสอนหลัก Grammar และไวยากรณ์ในภาษาอังกฤษทุกรูปแบบ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจสูงสุด เมื่อเข้าใจพื้นฐานของ Grammar ในภาษาอังกฤษ ก็จะช่วยให้ทุกคนมีโอกาสทำข้อสอบได้คะแนนดีขึ้นกว่าเดิม

 

คอร์สติว IELTS Writing Academic ออนไลน์

เป็นการติว IELTS Writing Academic ในรูปแบบออนไลน์ เนื้อหาจะเน้นข้อสอบทักษะการเขียนแบบเจาะลึกไม่ว่าจะเป็นการบรรยายเนื้อหาจาก Graph, Chart, Diagram เปรียบเทียบข้อมูล อธิบายเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น การแสดงความคิดเห็น แก้ปัญหา อภิปรายเนื้อหาจากโจทย์โดยอาศัยหลักคำตอบที่เข้าใจง่าย และมีเหตุผลในตัว

 

คอร์สเรียน IELTS Reading Academic Online

เป็นการเรียน IELTS Reading Academic Online พาร์ทการอ่าน มีตัวอย่างข้อสอบจริงด้วยเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น ธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ฯลฯ จากนั้นให้ลองทำข้อสอบตามรูปแบบที่จะมีการออก อาทิ Multiple Choice, True / False / Not Given การเติมคำ ตอบแบบ Short Answer การจับคู่ และ Sentence Completion

 

คอร์สติว IELTS Writing General ออนไลน์

เป็นการติวสอบ IELTS Writing General ออนไลน์ มีสถานการณ์สมมุติเพื่อให้เขียนโต้ตอบ ซึ่งรูปแบบการเขียนสอนครบถ้วนทั้งทางการ ไม่ทางการ และกึ่งทางการ รวมถึงโจทย์ที่จะให้แสดงความคิดเห็น มุมมองทั่วไป วิธีแก้ปัญหา ตัวคอร์สจะแนะนำวิธีสอบข้อเขียนด้านนี้เพื่อนำไปใช้งานได้จริง

 

คอร์สติว IELTS Listening & Speaking ออนไลน์

เป็นการติวสอบ IELTS Listening & Speaking ผ่านออนไลน์ สามารถนำไปใช้ได้ทั้งการสอบ IELTS General และ IELTS Academic ฝึกทักษะด้านการฟังด้วยเทคนิคจับคำหรือประโยคหลักของบทสนทนานั้น ๆ รวมถึงการฝึกทักษะด้านการพูดตามแนวคำถามพื้นฐานที่มักใช้ออกสอบ

 

คอร์สเรียนตะลุยโจทย์ IELTS General Online

เนื้อหาการเรียนออนไลน์ที่จะพาทุกคนไปตะลุยโจทย์การทำข้อสอบ IELTS General ในทุกพาร์ทแบบละเอียด เข้าใจง่าย เหมาะกับคนที่ใช้คะแนนสอบ IELTS เพื่อเรียนต่อต่างประเทศระดับมัธยม การใช้สมัครงานต่างประเทศ หรือย้ายถิ่นฐาน

 

คอร์สเรียนตะลุยโจทย์ IELTS Academic ออนไลน์

เนื้อหาการเรียนออนไลน์ที่จะพาทุกคนไปตะลุยโจทย์การทำข้อสอบ IELTS Academic เก็บทุกพาร์ทแบบละเอียดครบถ้วน เหมาะกับคนที่ใช้คะแนนสอบ IELTS เพื่อเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป ใช้สมัครงานที่ต้องมีทักษะภาษาอังกฤษชั้นสูง

 

คอร์สเรียน IELTS Academic Online

เป็นรูปแบบการเรียน IELTS สำหรับใช้สอบ IELTS Academic ได้แก่ IELTS Grammar, IELTS Writing Academic, IELTS Reading Academic, IELTS Listening & Speaking และการตะลุยโจทย์ IELTS Academic

 

คอร์สติว IELTS General ออนไลน์

เป็นรูปแบบการติว IELTS สำหรับใช้สอบ IELTS General ได้แก่ IELTS Grammar, IELTS Writing General, IELTS Reading General, IELTS Listening & Speaking และการตะลุยโจทย์ IELTS General

5 เว็บไซต์เรียน IELTS ฟรี

  1. Preparation for IELTS Exam

จะมีแบบฝึกหัดให้ได้ทดสอบความรู้เพื่อวัดระดับของตนเอง แบ่งเป็นแบบฝึกหัดระดับ 1-13 สามารถดาวน์โหลดในรูปแบบไฟล์ PDF เพื่อนำมาใช้ทดสอบทำกันได้เลย

https://www.ielts-writing.info/EXAM/

 

  1. IELTS.org

เว็บไซต์ทางการของข้อสอบ IELTS ที่จะมีแบบฝึกหัดให้ได้ลองทำกันอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Listening, Academic Reading, General Training Reading, Academic Writing, General Training Writing และ Speaking 

https://www.ielts.org/usa/ielts-practice-test

 

  1. Free online IELTS practice tests

เตรียมการสอบ IELTS ที่จะมีตัวอย่างแบบฝึกหัดให้ได้ลองทำแบบครบถ้วนทุกทักษะ การฟัง พูด อ่าน เขียน และรูปแบบการสอบเสมือนจริง สร้างความเข้าใจและนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

https://takeielts.britishcouncil.org/take-ielts/prepare/free-ielts-practice-tests

 

  1. IELTS IDP

อีกสถาบันที่เปิดให้มีการสอบ IELTS ซึ่งทางสถาบันเองก็มีแบบฝึกหัดและตัวอย่างข้อสอบให้ได้ลองดาวน์โหลดไปทำกันทั้ง IELTS General และ IELTS Academic เพิ่มทักษะแบบรอบด้านในทุกพาร์ทการของการสอบอีกด้วย

https://ielts.idp.com/thailand/prepare/article-free-practice-tests

 

  1. IELTS Buddy

เว็บไซต์ที่จะมีแบบทดสอบข้อสอบ IELTS ให้ได้ลองทำกันครบถ้วนทั้ง 4 พาร์ท Reading, Writing, Listening, Speaking เพิ่มความเข้าใจและทักษะพื้นฐานของผู้สอบได้อย่างดีเยี่ยมมาก ๆ

https://www.ieltsbuddy.com/ielts-practice-tests.html

 

อาหารภาคกลาง
รับทำข้าวกล่อง อาหารภาคกลาง

รับทำข้าวกล่อง อาหารภาคกลาง

 

อาหารภาคกลาง ถือได้ว่าเป็นภาคที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้อาหารภาคกลางจึงเป็นอาหารที่มีความหลากหลาย ทำให้รสชาติของอาหารภาคกลางไม่เน้นไปทางรสใดรสหนึ่งโดยเฉพาะ คือมีทั้งรสเค็ม เผ็ด เปรี้ยว และหวานคลุกเคล้าไปตามชนิดต่างๆของอาหาร นอกจากนี้มักมีการใช้เครื่องปรุงแต่งกลิ่นรส เช่น เครื่องเทศ และมักใช้กะทิเป็นส่วนประกอบของอาหาร อาหารภาคกลาง

 

จุดเด่นของอาหารภาคกลาง คือ มักจะมีการประดิษฐ์ สร้างสรรค์อย่างวิจิตรบรรจง ผัก และผลไม้มีการแกะสลักอย่างสวยงาม แสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยที่มีศิลปะและวัฒนธรรมที่งดงาม

 

ลักษณะของอาหารท้องถิ่นไทยภาคกลาง | อาหารภาคกลาง

 

1.รสชาติ อาหารท้องถิ่นไทยภาคกลาง โดยทั่วไปมีสามรส เปรี้ยว เค็ม หวาน บางชนิดมีเผ็ด มัน ขม เมื่อปรุงเสร็จจะได้รสกลมกล่อม

 

2.รูปร่างลักษณะของอาหารภาคกลาง เป็นภาคที่อุดมสมบูรณ์ ประชาการจะอยู่อย่างมีความสุข กอปรกับภาคกลางเป็นที่ตั้งของเมืองหลวง ในวังหลวงมีการประดิษฐ์ประดอย จัดแต่งอาหารและวัสดุที่ประกอบอาหารสวยงาม เมื่อปรุงเสร็จอาหารก็จะน่ารับประทาน

 

3.กลิ่นและสี อาหารท้องถิ่นไทยภาคกลาง กลิ่นนั้นจะหอมน่ารับประทาน เช่น แกงเผ็ด แกงส้ม ก็จะหอมกลิ่นพริกเป็นหอมฉุน ถ้าเป็นขนมก็กลิ่นจะหอมหวาน

 

4.เครื่องเคียง หมายถึง อาหารที่รับประทานคู่กับอาหารอีกอย่างหนึ่ง เช่น ขนมจียน้ำพริก มีเครื่องเคียงมากมาย ทั้งผักสด ผักทอด ทอดมัน เป็นต้น

 

วิธีการปรุงอาหารภาคกลางมีความหลากหลาย ซับซ้อน มีกรรมวิธีในการปรุงที่หลายแบบ ได้แก่ แกง ต้ม ผัด ทอด ยำ เครื่องจิ้ม เช่น น้ำพริก หลน เป็นต้น อาหารในสำรับมักประกอบด้วยอาหาร 4 ประเภทด้วยกัน คือ แกงเผ็ด แกงจืด ผัดหรือทอด และน้ำพริก รสชาติของอาหารไทยมักจะออกรสเผ็ด ดังนั้นจึงต้องมีอาหารรสเค็ม หรือเปรี้ยวๆ หวานๆ แนม เพื่อช่วยบรรเทาความเผ็ด ดังนั้นคำว่า “ เครื่องเคียง หรือ เครื่องแนม ” หมาย ถึง อาหารชนิดใดชนิดหนึ่งที่จัดเพิ่มขึ้นให้กับอาหารหลักในสำรับ เพื่อช่วยเสริมรสชาติอาหารในสำรับนั้นให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อร่อยมากขึ้น 

 

ข้าวต้มยำน้ำข้นปลากระพง | อาหารภาคกลาง

เมนูซดน้ำแสนอร่อย ต้มยําปลากระพงน้ำข้น สูตรเด็ด ร้อน ๆ แซ่บ ๆ ได้ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ เข้ากันดีมาก ต้มยำเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย คงไม่มีใครไม่เคยทานต้มยำ แต่ก็ด้วยต้มยำนั้นสามารถใช้วัตถุดิบได้หลายอย่างอย่างเช่นที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คงไม่พ้น ต้มยำกุ้งน้ำข้น หรืออีกอย่างก็คงจะเป็น ต้มยำปลากระพง 

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+ปลากะพง เเคลอรี่(Cal.): 550

 

ข้าวแกงเขียวหวานหมู

วัตถุดิบหลักในการปรุงคือน้ำกะทิ ด้วยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการปลูกมะพร้าวจำนวนมากจึงมีอาหารหลายอย่างที่ใช้วัตถุดิบหลักในการปรุงเป็นกะทิ อาทิเช่นกับข้าวต่างๆ เช่น ห่อหมก แกงกะทิใส่ไก่ หมี่กะทิโบราณ หัวปลีต้มน้ำกะทิ นี่ยังไม่รวมขนมไทยต่าง ๆ ก็มีการใช้กะทิเป็นส่วนประกอบหลัก

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+แกงเขียวหวานหมู เเคลอรี่(Cal.): 540

 

ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู+ไข่ต้ม

น้ำพริกอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน วันนี้เราจะมาเอาใจลูกค้ารักสุขภาพกับเมนูข้าวน้ำพริกปลาทู นำ พริก หอมแดง และกระเทียม ไปคั่ว ปรุงรส ผัดกับข้าว ทานคู่กับไข่ต้ม และปลาทู  เข้ากันดีเลยค่ะ ยิ่งมีผักด้วยยิ่งดีเลย 

ส่วนประกอบ: ข้าวผัดน้ำพริกกระปิ+ปลาทูทอด+ไข่ต้ม เเคลอรี่(Cal.): 572

 

ข้าวไก่ทอดตะไคร้

นึกถึงเมนูกับแกล้ม หรือเมนูทานเล่น ที่ไม่เคยเบื่อเลย ผสมกับสมุนไพรอย่างตะไคร้ช่วยให้รสชาติของไก่ทอดอร่อยฟินขึ้นไปอีก 

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+ไก่ทอดตะไคร้ เเคลอรี่(Cal.): 540

 

ข้าวกะพงผัดขึ้นฉ่าย

นำน้ำผัดมาราดลงบนเนื้อปลาทอด โปะด้วยผักด้านบน น้ำผัดจะเค็มหวาน หอมผักและหอมขิง น้ำผัดราดข้าวได้ความอร่อย ผิวด้านนอกเนื้อปลากรอบ ด้านล่างนุ่มเพราะชุ่มน้ำผัด เนื้อปลามันอร่อย มีรสหวานน้อย ๆ มีความมันมากกว่า เหยาะซีอิ๊วขาวเพื่อดับรสเผ็ดขิงลง

ส่วนประกอบ: ข้าวหอม+ปลากะพง+ขึ้นช่าย+ขิง เเคลอรี่(Cal.): 550

 

ผัดไทยกุ้งสด

อาหารของไทยมีชื่อเสียงดังไปไกลถึงต่างประเทศหลากหลายเมนู มีร้านอาหารไทยในต่างแดนผุดขึ้นมากมาย และมีชาวต่างชาติมาเที่ยวในไทยต่างต้องแวะทานอาหารขึ้นชื่อของบ้านเราโดยเฉพาะเมนูผัดไทยกุ้งสด 

ส่วนประกอบ: ผัดไทย+กุ้งสด เเคลอรี่(Cal.): 610

 

ข้าวเปรี้ยวหวานหมู

กินผักผลไม้หลากสี จะได้รับวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ที่มีสีสันสะดุดตาชวนกิน แถมยังเป็นเมนูอร่อยของหลายๆ บ้าน นั่นก็คือ “ผัดเปรี้ยวหวานหมู” เมนูผัดเปรี้ยวหวานนี้ได้สีสันจากผักและผลไม้หลายอย่างที่นำมาผัดรวมกัน ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมอร่อยแบบเฉพาะตัว

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+เปรี้ยวหวานหมูทอด เเคลอรี่(Cal.): 520

 

ข้าวกล่องอาม่าเริ่มต้นมาจาก การทำอาหารให้หลานทาน ซึ่งหลานทานแล้วไม่เคยเบื่อ เพราะฝีมือการทำอาหารของอาม่า อร่อยทุกจาน ทุกมื้อ โดยอาม่าจะเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดกลับมาเตรียมอาหาร ด้วยเทคนิคการปรุงอาหารให้ได้อาหารที่มีรสชาติอร่อย และ กลมกล่อมถูกปากคนในบ้าน จนกลายเป็นธุรกิจอาหาร ดิลิเวอรี่ เพราะเราอยากให้ทุกคนได้ทานของอร่อยๆ ในปริมาณที่คุ้มค่า เรามีช่องทางการสั่ง หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ เฟสบุ้ค หรือไลน์ ลูกค้าสะดวกสั่งอาหารช่องทางไหนก็ได้ เราจะมีทีมงานคอยช่วยเหลือ ประสานงานตลอดเวลา 

 

ข้าวกล่องอาม่า มีอาหารหลากหลายเมนูให้เลือกสั่ง พร้อมเครื่องปรุง และอุปกรณ์พร้อมรับประทาน สร้างความอิ่มอร่อยได้อย่างสบายๆ เราคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นเยี่ยม สดใหม่ และ บรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม สะดวกต่อการใช้งาน ถูกออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน ทำให้ไม่ว่าที่ไหน ก็สามารถอิ่มอร่อยได้กับ ข้าวกล่องอาม่า อยู่เสมอ และข้าวกล่องอาม่า ไม่เคยหยุดพัฒนาเมนูอาหาร ทางเราได้คิดค้นเมนูให้มีความหลากหลาย ผสมผสานและพัฒนารสชาติอาหารของเราให้ดีที่สุดอยู่เสมอ เราจึงมั่นใจว่า อาหารของเรานั่น ได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถัน จนท่านสัมผัสถึงรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม เปรียบเสมือน ท่านทานอาหารที่บ้านกับครอบครัว 

 

ข้าวกล่องอาม่า จะส่งตรงถึงลูกค้าทันทีเมื่อปรุงเสร็จ ไม่มีการเก็บค้างคืน จึงมั่นใจได้ว่ากระบวนการผลิตนั้น สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ซึ่งอาหารทุกกล่องจึงรับประกันได้ว่า อร่อย คุณภาพดี  และด้วยเมนู ที่ให้ท่านได้เลือกสรร อย่างหลากหลาย ทำให้อาหารแต่ละมื้อของท่าน เข้าถึงทุกรสชาติ ข้าวกล่องอาม่ามีบริการส่งที่น่าประทับใจ พร้อมส่งถึงที่ในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล

 

ขาย “ข้าวกล่องอาม่า” ให้กับใคร

 

-หนุ่มสาวออฟฟิศ ในย่านออฟฟิศ นิคมอุตสาหกรรม

-พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ในโรงเรียนที่พ่อแม่ต้องมาส่งนักเรียนแต่เช้า

-เพื่อนๆ ที่ทำงาน กรณีที่คุณเป็นหนุ่มสาวออฟฟิศ คุณอาจทำรายได้โดยการรับออร์เดอร์จากเพื่อนที่ทำงาน เพื่อนำข้าวกล่องมาส่งในเช้าวันรุ่งขึ้น

-องค์กรและหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ ข้าวกล่องอาม่ารับหมดค่ะ

 

ข้าวกล่องอาม่า ไม่เพียงแต่ รับทำข้าวกล่อง ออเดอร์เล็กๆเท่านั้น แต่ข้าวกล่องอาม่ายัง รับทำข้าวกล่อง ให้กับองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ในปริมาณมาก ถึงขั้น 1,000 กล่องต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นงานเร่ง งานด่วน เราก็สามารถทำให้ได้ เพียงแค่กดสั่งรายการอาหาร พร้อมระบุวันเวลา ทางเราจะจัดส่งให้ถึงที่ทันที

 

ทำไมต้องเรา “ข้าวกล่องอาม่า”

 

-ให้เยอะอิ่มจุกๆ ทำให้หลานมันกินกลัวมันจะไม่อิ่ม อาม่าเลยจัดเต็ม

-สั่งเยอะเราทำได้ มาเลย 1,000กล่อง อาม่ายังไหว รสชาติไม่เพี้ยน

-รับประกันคุณภาพ อาม่าการันตี ปรุงเองทุกกล่อง

-รวดเร็ว ส่งถึงมือ เราบริการด้วยใจ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่ในครัว ยันรับสินค้า

-ออกใบกำกับภาษีได้ สามารถออกบิลบริษัท และ VAT เต็มรูปแบบ

 

สิ่งที่ “ข้าวกล่องอาม่า” ใส่ใจดูแลคุณ

 

คุณภาพของอาหาร

การขายอาหารไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดนั้น คุณภาพของอาหารถือเป็นหัวใจหลักที่สำคัญ นอกเหนือจากนี้การให้บริการก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน การสร้างจุดขายให้สินค้าและองค์ประกอบอื่นๆ รวมถึงความอดทน และความมุ่งมั่น 

 

ราคาเบากระเป๋า อัดแน่นด้วยคุณภาพ

ราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของอาหาร เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ การขายอาหารออนไลน์มีในเรื่องของค่าจัดส่งที่ต้องพิจารณา กรณีที่ขายเฉพาะบางพื้นที่ ใช้เวลาจัดส่งไม่นาน เมื่อรวมค่าส่งแล้วไม่ควรแพงไปกว่าการที่ลูกค้าเดินทางไปซื้อเอง หรือไม่หากอาหารของเรามีคุณภาพดี เป็นสูตรที่คิดขึ้นมาเอง ไม่มีที่ไหนทำขาย คู่แข่งน้อย เรื่องค่าขนส่งก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาที่สำคัญนัก

 

ระยะเวลาในการจัดส่งและเก็บรักษา

หากจำหน่ายอาหารแห้งคงไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเก็บรักษามากเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นอาหารสดหรืออาหารที่ผ่านการปรุงแล้ว ควรระวังในเรื่องของเวลาที่ใช้ในการจัดส่งรวมถึงเวลาในการเก็บรักษา อาหารบางประเภทต้องรับประทานขณะอุ่นไม่เช่นนั้นอาจจะเสียอรรถรสในการทาน หากไม่สามารถทำได้ควรมีคำแนะนำวิธีการอุ่นให้แก่ลูกค้าโดยที่ยังคงรสชาติของอาหารได้

 

บริการหลังการขาย

สิ่งที่ไม่อาจเลี่ยงได้คือปัญหาที่อาจเกิดได้จากขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การรับออเดอร์ การขนส่งสินค้า หรือแม้แต่ลูกค้าได้รับสินค้าแล้ว ต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ รวมถึงสอบถามความพึงพอใจจากลูกค้า ว่าอาหารที่ได้รับหน้าตาตรงตามที่คาดไว้จากรูปมากน้อยแค่ไหน รวมถึงการน้อมรับคำติชมเพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อไป

jum-jim.com

ไพ่ยิปซี
รีวิวเว็บดูดวงจับไพ่ยิปซี ไพ่ทาโรต์ฟรี

รีวิวเว็บดูดวงจับไพ่ยิปซี ไพ่ทาโรต์ฟรี

 

การทำนายอนาคตด้วยการดูดวง ไพ่ยิปซี ถือเป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจและนับว่าเป็นศาสตร์แห่งการทำนายอนาคตที่มีประวัติมาช้านาน โดยเฉพาะในวงการนักพยากรณ์ที่ยอมรับกันว่าการจับไพ่ยิปซีเป็นการดูดวงที่มีความแม่นยำที่สูง

 

Shitsuren-tarot.com เป็นเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความหลงใหลของผู้พัฒนาต่อไพ่ยิปซี ผู้พัฒนาได้มีความตั้งใจที่จะพัฒนาเว็บไซต์ที่ให้บริการการดูดวงไพ่ยิปซีแบบออนไลน์ที่ดีที่สุดในประเทศ บริการการจับไพ่ยิปซีออนไลน์แบบเต็มรูปแบบและมีความแตกต่างจากเว็บไซต์อื่น ๆ ในวงการนี้ และที่สำคัญการใช้งานคือฟรีอีกด้วย

 

เว็บไซต์ได้ถูกออกแบบให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านไพ่ยิปซีก่อนเลย ผู้ใช้งานสามารถเลือกไพ่ที่ต้องการได้ตามต้องการ โดยการจับไพ่ของ Shitsuren-tarot.com นั้นถูกออกแบบมาให้คล้ายคลึงกับการจับไพ่ยิปซีแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง ไม่ใช้การสุ่ม (สุ่มแค่ตอนล้างไพ่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น) นอกนั้นการสับ การตัด การเลือกจะเป็นไพ่แยกใบจริง ๆ ไม่ใช่แค่อนิเมชั่น ซึ่งนั้นทำให้ผู้ใช้งานมีความไว้วางใจและมั่นใจกับความแม่นยำของผลการอ่านไพ่ยิปซีจากเว็บมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ชื่นชอบการอ่านไพ่ แต่ไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกที่จะไปหาที่จับไพ่จริง ๆ 

 

อีกจุดที่น่าสนใจของเว็บนี้คือมีตัวเลือกให้เลือกการอ่านไพ่ตั้งแต่ 1 ใบ 2 ใบ 3 ใบ 4 ใบ ไปจนถึงแบบ Celtic cross 10 ใบ (และยังมีอัพเดทมาเรื่อย ๆ) ซึ่งการใช้งานจับไพ่ยิปซีที่เว็บไซต์ Shitsuren-tarot.com ก็ง่ายและสะดวกมาก เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์แล้วเลือกรูปแบบการจับไพ่แบบที่ต้องการ สับไพ่ ตัดไพ่ และเลือกไพ่ออกมา ก็จะได้ผลการดูดวงไพ่ยิปซีแบบออนไลน์ทันที พร้อมความหมาย โดยไม่ต้องออกไปหาอ่านความหมายไพ่ที่อื่นเลย นอกจากนี้ยังสามารถอ่านไพ่ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่บ้าน อยู่ที่ทำงาน หรืออยู่ที่ไหนก็ตามที่มีอินเตอร์เน็ต และในเว็บไซต์ Shitsuren-tarot.com ยังมีฟีเจอร์เสริมมากมาย เช่น การบันทึกไพ่ไว้ในระบบ (ต้องทำการสมัครสมาชิกก่อน) การบันทึกรูปภาพไพ่ที่จับได้ การแชร์ไพ่ที่จับได้ขึ้นโซเชียล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการนำไพ่ที่จับได้ไปใช้สอบถามหรือแชร์ต่อ

 

 

jum-jim.com