โช๊คkw suspension thailand
โช๊คkw suspension thailand – หน้าที่โดยฐานราก ของโช้คอัพ ตอนที่รถยนต์ ได้รับแรงกระแทก จากการวิ่งบน หนทางที่ ไม่เรียบ โช้คอัพ จะมีหน้าที่เป็นตัวช่วย ถ่วงการเคลื่อนที่ ขึ้นหรือลงของ ตัวรถยนต์ แล้วก็ยังช่วย ควบคุมการเต้นของล้อ ให้เกิดขึ้นต่ำ ที่สุด เพื่อล้อของรถยนต์ ได้สัมผัสกับ พื้นผิวของถนนหนทาง ในขณะรถยนต์ แล่นอยู่เสมอเวลา ให้กำเนิด ความสบายของ ผู้ขับขี่และก็ ให้มีการทรงตัว ที่ยอดเยี่ยม (SHOCK ABSORBERS) ที่ใช้ในรถยนต์ อยู่ในทุกวันนี้ เป็นโช้คอัพ สถานที่สำหรับ ทำงาน
อายุการใช้งานของ โช๊คkw suspension thailand
โดยปกติแล้ว โช๊คอัพรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น โช๊คอัพ สำหรับรถกระบะ หรือรถเก๋งมักมี อายุการ ใช้งาน อยู่ที่ 50,000-100,000 กิโลเมตร หรือ 3 ปี เมื่อคุณใช้งานมาถึงระยะ ใดก่อนก็ควร จะเปลี่ยนโช๊คอัพ ใหม่ตามกำหนด เพื่อให้รถ ยังคงสมรรถนะ ที่ดีเยี่ยมเช่นเดิม
แต่ทั้งนี้อายุของ โช๊คอัพยัง ขึ้นอยู่กับ ปัจจัยอื่น ๆ อีกด้วย เช่น รถยนต์บางคัน อาจใช้งาน ได้ถึง 80,000 กิโลเมตร หรือบางคัน อาจใช้งาน ได้เพียง 35,000 กิโลเมตร โช๊คอัพ ก็เสื่อมสภาพต้อง รีบเปลี่ยนแล้ว เช่นกัน เพราะนอกจาก ระยะการประมาณ ที่ว่ามาข้างต้นแล้ว ลักษณะ การใช้งานรถยนต์ ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับอายุการ ใช้งานของโช๊คอัพ ด้วยเช่นกัน
ปัจจัยที่ทำให้โช๊คอัพเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
เพราะการใช้งาน ที่หนักหน่วงเกินไป ก็เป็นต้นเหตุให้ โช๊คอัพทำงานหนัก และเสื่อมสภาพ เร็วมากขึ้น เท่านั้น โดยเฉพาะการ ใช้งานและขับขี่ ดังต่อไปนี้
- ขับขี่บนถนนขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ ถนนไม่เรียบเป็นประจำ
- บรรทุกของน้ำหนักมากเกินเสมอ ๆ
- ขับขี่ด้วยความเร็วเป็นประจำ หรือขับเส้นทางที่มีโค้งเยอะและต่อเนื่องเสมอ
- เส้นทางที่ใช้ไม่ใช่ถนนปกติ อาจเป็นถนนลูกรัง ถนนดินแดง เส้นทางขึ้นเขา
- ติดตั้งไม่ดีตั้งแต่แรก อาจเพราะช่างไม่ชำนาญมากพอ
ประเภทของโช๊คอัพ kw suspension thailand
แบ่งตามสื่อการทำงานได้ 2 ระบบคือ
1. โช๊คอัพน้ำมัน ใช้น้ำมันไฮดรอลิค เป็นตัวทำงาน ให้เกิดความหนืด เพียงอย่างเดียว ไม่แนะนำสำหรับรถ ที่ต้องใช้ความเร็วสูง เพราะการทำงาน ของน้ำมันไฮดรอลิคจะไหล ผ่านวาล์วภายใน ลูกสูบจึงทำให้เกิด ฟองอากาศเกิดขึ้น ภายในน้ำมันไฮดรอลิค ซึ่งฟองอากาศ นี้จะทำให้โช๊คอัพ ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ ควรเพราะถ้าฟองอากาศ แตกจะทำให้โช๊คอัพ เกิดการขาด ช่วงในการทำงาน ระยะหนึ่งเป็น ช่วงเวลาสั้น ๆ
2. โช๊คอัพแก็ส เป็นการอาศัย การทำงาน ร่วมกัน 2 อย่าง ระหว่างแก๊สไนโตรเจน กับน้ำมันไฮดรอลิค เมื่อโช๊คอัพ ได้รับแรงสะเทือนจาก พื้นถนน ลูกสูบของโช๊คอัพก็จะเลื่อนตัว ลงมาด้านล่าง ของกระบอก ลูกสูบ ทำให้น้ำมันอีก ส่วนไหลผ่านวาล์ว ไปจนถึงด้านล่าง และเข้าไปใน ห้องน้ำมันสำรอง ขณะเดียวกันน้ำมันในห้องน้ำมันสำรอง จะทำการอัดแก๊ส ไนโตรเจนให้ เกิดแรงดัน เมื่อแรงดันเกิดขึ้น ก็จะทำให้เกิดฟอง อากาศแตกตัว จึงมีข้อดีตรง ที่ทำให้รถมี ความนุ่มนวลขณะขับขี่ ลดแรงกระแทก ได้มากกว่า แต่ก็มีราคาที่สูง กว่าโช๊คอัพน้ำมัน เช่นกัน
อาการแบบไหนที่เป็นสัญญาณเตือนว่าเราควรไปหาร้านจำหน่ายโช๊คอัพได้แล้ว
1. ถ้ากดที่ด้านหน้า ของรถแล้วปล่อย รถมีอาการเด้ง ขึ้นเด้งลงหลาย ๆ ครั้งนั่นแปลว่า โช๊คอัพของคุณ อาจเสื่อมสภาพแล้ว โช๊คอัพที่ดี เมื่อออกแรงกด จะไม่เด้งไปมาแต่จะยุบตัว และคืนตัวเป็นระดับ ปกติทันที แต่อย่างไรก็ ตามวิธีนี้ไม่สามารถ ชี้ชัดอาการอย่าง แน่นอนได้ เนื่องจาก การออกแบบ ช่วงล่าง ของรถบางรุ่นที่ต้องการ ความนุ่มนวล จะมีการให้ตัว ของรถมาก กว่าปกติ
2. ตรวจพบน้ำมันรั่วซึม จากตัวโช๊คอัพ หากมีฝุ่นหรือ เศษดินทรายเกาะ บริเวณจุดที่รั่วซึม นั้นแปลว่าโช๊ค ของคุณเริ่มมีปัญหา แล้วไปร้านจำหน่าย โช๊คอัพด่วน
3. ยางรถยนต์มี อาการสึกไม่เรียบ เสมอกัน
4. แกนโช๊คอัพ ไม่อยู่ในสภาพ พร้อมใช้งาน เช่น คดงอ บุบ บิดเบี้ยว เป็นต้น
5. รถมีอาการสั่น ยากต่อการบังคับ เมื่อสัมผัสกับ ผิวถนนที่มีสภาพขรุขระ หรือมีอาการ เหินน้ำเมื่อวิ่ง อยู่บนนถนนเปียก นอกจากนี้ยัง สามารถสังเกต อาการได้จากหน้าเชิด ขณะออกตัว และหน้ารถจะ ทิ่มลงเมื่อเบรก ที่ความเร็วต่ำควร ไปพบร้านจำหน่าย โช๊คอัพอย่าง ไม่ต้องรีรอ
6. เมื่อมีลมมาปะทะ ที่ความเร็วสูงรถ จะเสียการทรงตัว แบบผิดปกติอย่าง ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
7. รถมีอาการโยก คลอนขึ้นลง ไม่นิ่มนวล เมื่อมีการแล่นผ่าน ทางลาดชัน เนินสะดุดต่าง ๆ
8. เมื่อจอดรถ ลองสัมผัสที่ตัวโช๊คอัพ ถ้ารู้สึกร้อนแสดงว่าโช๊คอัพยังทำงานอยู่
วิธีเลือกโช๊คที่เหมาะกับตัวเราก่อนไปที่ร้านจำหน่ายโช๊คอัพ
1. ควรดูลักษณะการขับขี่ของคุณว่าเน้นขับช้าหรือขับเร็วและตัวคุณตั้งงบประมาณไว้ที่เท่าไหร่
2. ในที่กรณีขับช้า ขับชิวๆสบายๆไม่รีบเร่ง ขับในเมือง ถนนขรุขระถ้าเน้นในเรื่องของความนุ่มนวล โช๊คและสปริงก็ควรจะนุ่มตามไปด้วย โดยแนะนำค่า K ของสปริงสัก 3.5K
3. กรณีชอบขับเร็ว ชีวิตเร่งรีบทุกวินาทีมีค่า วิถีนักบิดอยู่ในสายเลือด ช่วงล่างก็จะต้องไม่ย้วย เพราะเวลาเข้าโค้งจะไม่เกิดอาการเหวี่ยง โดยแนะนำโช๊คแต่ง สปริง 4K-6K ขึ้นไปตามความชอบ ส่วนโช๊คระดับนี้ส่วนใหญ่จะมาพร้อมสปริง ง่ายที่สุดเพราะมาเป็นคู่ ทำไว้เหมาะสมแล้ว โช๊คอัพแต่งราคาจะสูงขึ้นมาหน่อย มีราคาตั้งแต่ 30,000 ไปจนถึง 60,000 เลยทีเดียว
กลับสู่หน้าหลัก – jum-jim