tein โช๊คอัพ

tein โช๊คอัพ – เป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่ช่วยในเรื่อง ของการ รองรับแรง กระแทก ของรถยนต์ ลดแรงสั่นสะเทือน ของรถทำให้ เวลาขับรถ ไปสถานที่ไหน ๆ พื้นผิวถนนเป็นอย่างไร ฝ่าเขาฝ่าเนินก็ จะทำให้การเด้ง ขึ้นเด้งลง ของรถนั้นซอฟต์ขึ้น มีสัมผัสที่เบานุ่มนวล ไม่โคลงเคลง ดูดซับแรง กระแทกได้ดี นั่นหมายความว่า การมีโช๊คอัพ ก็จะช่วยให้การขับรถ สะดวกปลอดภัยและ นั่งสบายมาก ขึ้นนั่นเอง และยังทำหน้าที่หน่วงการ เคลื่อนที่ขึ้นลงของ ตัวถังรถยนต์ เพื่อให้ล้อรถ สัมผัสกับผิวถนนตลอด เวลาขณะรถวิ่ง โดยการควบคุม การยุบและการสั่น ของสปริง หรือแหนบ โดยการเปลี่ยนการ สั่นสะเทือนจากพลังงาน

tein โช๊คอัพ  เสื่อมได้ไง เรื่องนี้มีหลายสาเหตุ แต่หลักๆ แล้วมาจาก

  1. การใช้งานอย่างสมบุกสมบัน เช่น การบรรทุกหนัก หรือโดยสารเกิน
  2. การขับรถด้วยความเร็วบ่อยครั้ง หรือ ขับในเส้นทางที่มี ทางโค้งต่อเนื่องบ่อยครั้ง
  3. การขับขี่ในเส้นทาง ที่ไม่ใช่ถนนบ่อยครั้ง
  4. การเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน

ด้วยหน้าที่ของ “โช๊คอัพ” (Shock Absorber)  หน้าที่ของมันคือจำกัด และรับแรงกระแทก ที่เกิดจากถนน กระทำต่อล้อยาง ให้เกิดการสั่นสะเทือน น้อยที่สุด และทำให้รถมี การทรงตัวดีที่สุด ดังนั้นถ้าชิ้นส่วนนี้ เสียหายหรือเสื่อมสภาพ จะทำให้การเกาะ ถนนน้อยลง และควบคุมรถยากขึ้น มันมีผลมาก ต่อการขับรถให้ได้ดังใจ อันโยงถึง ความปลอดภัย ดังนั้น วันนี้เราควรมาสังเกต อาการโช๊คเสียกันว่า มันเป็นอย่างไร

  1. ร่อนเมื่อขับด้วยความเร็ว  อาการรถร่อน ให้นึกถึงเหมือนคุณ ขับรถแล้ว เล่นสเก็ตไม่มีความมั่นใจ ปกติ อาการนี้ จะเป็นเพียงช่วง รถเกิดการลื่นไถล เช่น เหิรนน้ำ หรือขับในพื้นผิว ที่ลืนเป็นพิเศษ อาการร่อน ของช่วงล่าง หมายถึงจะต้องมี โช๊คมากกว่า 1 ต้น ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งควรตรวจสอบโดยเร็วครับ
  2. โคลงตัวผิดปกติ อาการโคลงตัวผิดปกติ เป็นอาการที่สังเกตได้ง่าย และบ่งบอกถึงอาการ โช๊คอัพ เสื่อมสภาพ แต่อาจจะ ยังไม่ถึงขั้น เสียหายจนต้องเปลี่ยน เมื่อ โช๊คเสื่อม หรือช่างบางคน อาจเรียกว่า โช๊คล้า
    จะมีอาการ ตึงตัวของการยืด-หดช้าลง คล้ายคนแก่ ส่งผลให้ เวลาคุณเร่งความเร็วออกตัว ถ้าเป็นรถขับหลัง เช่นรถกระบะ จะมีอาการหน้าเชิด หรือเวลาเบรก แล้วหน้าทิ่ม มากกว่า ปกติ ถ้าพบเช่นนี้โช๊คอัพเสื่อม หรือาจเพิ่มเริ่มเสื่อม แล้วแน่นอน
  3. ห้องโดยสารมีอาการนุ่มผิดปกติ อาการนุ่มผิดปกติ เกิดขึ้นได้เมื่อ รถโช๊ตเสื่อมสภาพ ด้วยการไม่สามารถซับ แรงสะเทือนได้ อาจจะทำให้เกิด การกระดอนผิดจังหวะ เป็นอันตราย อย่างมาก ต่อการขับขี่ อาการนี้จะพบเมื่อโช๊คต้อง ทำงานถึงขีดจำกัด หรือ ยืดสุด เช่น จังหวะ ขึ้น-ลงขอสะพาน ผ่านลุกระนาดหนา
    แต่ถ้าโช๊ค ไม่ทำงาน ไม่ให้ตัวแล้ว หรือ ช่างชอบเรียกว่า โช๊คตาย จะทำให้รถมีอาการแข็ง เป็นไม้กระดาน ขับแล้วสะเทือน ไม่นิ่มนวล  แบบนี้ต้องรับเปลี่ยน โดยด่วน
  4. อาการโช๊ครั่ว หมายถึงการที่น้ำมัน ในโช๊คเกิดการรั่ว ออกมาภายนอกโช๊ค เป็นอาการที่ สังเกตได้ง่าย ทำให้ไม่มีแรงดัน จะรับแรงกระแทกจาก พื้นถนน โดยมาก อาการนี้จะเกิด ขึ้นเมื่อใช้งานโช๊ค สมบุกสมบันเกินไป หรือ อาจถึงเวลาตาม อายุการใช้งาน โดยมากซีลยาง จะเสื่อมสภาพก่อน ทำให้มีอาการน้ำมันรั่ว ออกมา

การทดสอบ โช๊คอัพเสื่อม

อย่างไรก็ดี ถ้าคุณไม่ใช่นักขับ ช่างสังเกต เราสามารถตรวจสอบ การเสื่อมสภาพรถ ได้ด้วย ตัวเอง ด้วยการ การจอดรถ บนพื้นเรียบ ระนาบเสมอ จากนั้น เอาน้ำหนัก ตัวยันผ่านมือลงไป ที่แต่ละล้อ  แล้วปล่อย ถ้ารถ มีอาการคืนตัวปกติ ไม่โยกซ้ำ ถือว่าผ่าน ถ้า มีอาการโยกซ้ำ 2-3 ที แสดงว่า โช๊คอัพเสื่อม  เพราะ การกระดอนนั้น มาจากการคืนตัว ของสปริงจนโช๊คอัพ ไม่สามารถทำงานได้ดั่ง ที่มันควรจะเป็น ก็ได้เวลาที่ ควรต้องจัดหา โช๊คชุดใหม่

วิธีการดูแล tein โช๊คอัพของรถยนต์ ได้ง่ายๆที่คุณก็ทำได้มาฝากไปดูกันได้เลยว่าเป็นอย่างไร

  1. เราไม่ควรบรรทุก ของที่หนักจนรถ ของเราจะรับ ไหวหรือหนักจน เกินไป เช่น สัมภาระต่างๆไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า บางคนคิดว่า เก็บไว้ในรถจะทำให้สะดวกสบาย แต่ของเหล่านี้ อาจจะทำให้รถ ของเราหนักเกิน ความจำเป็น นอกจากโช๊คอัพ จะมีประสิทธิภาพที่ ลดน้อยลงแล้ว ยังทำให้เราเปลืองน้ำมัน ในการขับรถอีกด้วย เพราะบรรทุก ของหนักเกินไปนั่นเอง
  2. ในการขับรถกัน เราไม่ควรใช้ความเร็ว เกินกว่ากำหนด เพราะจะส่งผล ให้ช่วงล่างของรถยนต์ ของเรานั้นเสื่อมสภาพ ได้อย่างรวดเร็ว บางคนเจอลูกระนาด เจอหลุม เหยียบคันเร่งผ่านไป อย่างรวดเร็วโดย ที่ไม่ผ่อนความเร็วรถ ซึ่งเป็นสิ่ง ที่ผิดมากๆ ดังนั้นเวลาเจอลูกระนาด เจอหลุมต่าง ๆ เราควรชะลอรถแล้วผ่านไป อย่างนุ่มนวล ที่สุดจะช่วยรักษาโช๊คอัพ ของเราได้ดียิ่งขึ้น
  3. หากการเดินทางไป สถานที่ใกล้ ๆ เราควรเช็คช่วงล่าง และยางลม ของเราให้ดี ซึ่งการเช็คนั้น ก็เช็คได้ง่าย ๆ คือเราลองขับถนนเลียบ ทางตรงจากนั้นก็สังเกตดู ว่าพวงมาลัย ของเรานั้น ตรงหรือไม่ถ้าหากลง แสดงว่ายังดีอยู่ แต่ถ้าหากไม่ตรงก็ ต้องไปตั้งศูนย์ใหม่ และถ้าหากขับไปแล้ว ได้ยินเสียงกุกกักต้องรีบไปแก้ไข และในเรื่อง ของโช๊คอัพ ถ้าจะต้องตรวจ คราบน้ำมันที่ บริเวณโช๊ค ของเราว่ามีการรั่วหรือไม่ เพราะระบบเหล่านี้ มีผลต่อรถยนต์ ของเราอย่างแน่นอน

 

กลับสู่หน้าหลัก – jum-jim